วันที่ 11 พ.ย. –นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการโจมตีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับแกนนำผู้ชุมนุมว่า ผู้วิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญต้องกระทำโดยสุจริต และไม่ใช้ถ้อยคำ หรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี หรืออามาตมาดร้าย ซึ่งครอบคลุมถึงการใช้สื่อและสังคมออนไลน์ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ซึ่งขณะนี้ที่น่ากังวลใจมากที่สุดคือการกล่าวให้ร้ายศาลรัฐธรรมนูญโดยบิดเบือนความเป็นจริง ใช้คำหยาบคาย เสียดสี ในลักษณะดูหมิ่นศาล ไม่ได้ใช้สิทธิโดยสุจริต ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย
นายราเมศกล่าวอีกว่า ตนเห็นด้วยที่ศาลรัฐธรรมนูญจะได้ตั้งทีมในการติดตามผู้กระทำความผิดทุกช่องทางโดยเฉพาะช่องทางโซเชียล แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานต้องช่วยกันอย่างเต็มที่ จะปล่อยให้ศาลรัฐธรรมนูญต่อสู้โดยลำพังคงไม่ได้ โดยเฉพาะกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องประสานงานกันให้เต็มที่ เหตุผลเพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะคงไว้ซึ่งหลักการของกฎหมายไม่ได้ และขอให้ทุกฝ่ายเคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้นความวุ่นวายในบ้านเมืองก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่จบสิ้น
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากศาลมีคำวินิจฉัยเมื่อวานนี้ ปรากฎว่าในโลกโซเชียลได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทำให้ศาลได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รวบรวมการแสดงความคิดเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วย