“พีระพันธุ์” ซัด ม็อบ 3 นิ้วผิดอาญาร้ายแรง จี้!เอาผิดคนหนุน

ที่ปรึกษานายกฯ ซัด ม็อบปฎิรูปสถาบัน ผิดอาญาร้ายแรงยิ่ง จี้ เอาผิดคนหนุน กองเชียร์และอีแอบ ทั้งในและต่างประเทศมาลงโทษทุกคน

วันที่ 11 พ.ย.–นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า จบแล้วแต่ยังไม่จบ! คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จับใจความได้ว่าการพูดถึงสถาบันหลักของชาติที่ปวงชนชาวไทยถวายความเคารพสักการะด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ในการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 มีลักษณะของการปลุกระดมและใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จ เป็นการเรียกร้องโจมตีในที่สาธารณะที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายและใช้ความรุนแรงในสังคม เป็นการทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ

อีกทั้งเป็นการเซาะกร่อนเพื่อทำลายหรือทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ที่ดำรงอยู่คู่กันกับชาติไทยเป็นเนื้อเดียวกันนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน และจะต้องดำรงอยู่ด้วยกันต่อไปในอนาคตเพื่อธำรงความเป็นชาติไทย ต้องสิ้นสลาย ไม่ว่าจะโดยการพูด การเขียน หรือการกระทำต่างๆ เพื่อให้เกิดผลเป็นการบ่อนทำลาย ด้อยคุณค่า หรือทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์อ่อนแอลง ย่อมแสดงให้เห็นถึงการมีเจตนาเพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่เป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

เป็นคำวินิจฉัยที่บอกว่าสิ่งที่กลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องพยายามตะโกนอธิบายว่าเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นการกระทำผิดกฎหมายและผิดรัฐธรรมนูญ ที่มิใช่เป็นเพียงแค่อาชญากรรมตามกฎหมายอาญาธรรมดาๆ หากแต่เป็นการบ่อนทำลายชาติและสถาบันหลักของชาติที่จะต้องดำรงอยู่คู่กันกับชาติเพื่อธำรงความเป็นชาติไทยตลอดไปให้ต้องสิ้นสลาย อันเป็นความผิดอาญาที่ร้ายแรงยิ่ง เป็นการตอกย้ำว่าเมื่อไหร่ที่คนพวกนี้ต้องติดคุก พวกเขาคือ “นักโทษผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรง” ไม่ใช่ “นักโทษทางความคิด”

มันจบแล้ว… จากนี้ไปการชุมนุมในลักษณะนี้รวมทั้งท่อน้ำเลี้ยงและอีแอบ ผู้เป็น “ชนกลุ่มน้อย” คือผู้ทำลายล้างรัฐธรรมนูญ คือผู้ทำลายล้างสถาบัน คือผู้ทำลายล้างชาติ คือผู้กระทำผิดอาญาร้ายแรง ไม่ใช่ผู้ใช้สิทธิเสรีภาพตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญอีกต่อไป ข้อคลางแคลงสงสัยของผู้รักษากฎหมายจนทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่นแบบที่ผ่านมาก็จบลงด้วย

แต่เรื่องยังไม่จบ!!! ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ถูกร้องมีลักษณะเป็นขบวนการที่มีเจตนาเดียวกัน แม้เหตุการณ์ตามคำร้องผ่านพ้นไปแล้ว แต่หากยังคงให้ผู้ถูกร้อง รวมทั้งกลุ่มในลักษณะองค์กรเครือข่ายกระทำการเช่นว่านั้นต่อไป ย่อมไม่ไกลเกินเหตุที่จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งว่า “…ให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 รวมทั้งกลุ่มองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย…”

หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้จนบ้านเมืองสิ้นสลายก็ไม่มีประโยชน์ที่จะมาพูดกันถึงปัญหาอื่นของชาติและของประชาชนอีกต่อไป จึงเป็นหน้าที่ของผู้รักษากฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดทุกกลุ่มทุกระดับทั้งในประเทศและต่างประเทศมาลงโทษให้ได้ ไล่เรียงย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นวันกระทำความผิดเรื่อยมาจนปัจจุบันและอนาคต ซึ่งรวมทั้งผู้ที่ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นผู้เอื้อเฟื้อสถานที่ สิ่งของ ทุนทรัพย์ รวมทั้งกองเชียร์และอีแอบ ที่พูดจา ส่งเสียงเชียร์ หรือกระทำด้วยวิธีการใดให้ผู้กระทำความผิดมีจิตใจที่ “ฮึกเหิม” มากยิ่งขึ้น ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาหลายฉบับ มิฉะนั้น ผู้รักษากฎหมายจะกลายเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เสียเอง

สำหรับพวกเรา “คนไทย” ทั้งปวง เรามาร่วมกันปกป้องสถาบันหลักของชาติเพื่อธำรงความเป็นชาติของเราดีกว่า

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" นำทัพภูมิใจไทย ปราศรัยใหญ่ ขอเสียงชาวเมืองคอน ส่ง "ไสว" เป็นสส. ชูเป็นจิ๊กซอร์เชื่อมท้องถิ่นดูแลปชช.
"นฤมล-ธรรมนัส" ลุยหนัก ปราศรัยอ้อนชาวนครศรีฯ ไว้วางใจ "บิ๊กโอ" เป็นสส. มั่นใจฝีมือ ร่วมดูแลประชาชน
วธ. จัดพิธีมอบเกียรติบัตรประกาศยกย่ององค์กรคุณธรรม สังกัดองค์กรอิสระและองค์กรภาคเอกชน ในส่วนกลาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
เตือนรัฐต้องสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน อย่าปล่อยหวยออนไลน์ ตู้ขายสลากผิดกม.เกลื่อนเมือง มีกฎหมายแต่จัดการไม่ได้ ประชาชนจะมั่นใจ?
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ แจงราคาหมูปรับขึ้นเป็นวัฏจักรปกติช่วงหน้าร้อน ยันไม่ใช่การเอาเปรียบผู้บริโภค
“โฆษกกองทัพบก” เผย “ผบ.ทบ.” สั่งดูแลเป้าหมายอ่อนแอ เข้มใช้กฎหมาย-รักษาความปลอดภัย เหตุป่วนใต้
"รองนายกฯ ประเสริฐ" ผนึกกำลัง 16 พันธมิตรร่วม MOU แพลตฟอร์ม ‘DE fence’ ป้องกันโทร - SMS หลอกลวง สกัด “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อมเปิดใช้ 1 พ.ค. 68 นี้
"พล ร.9" ฝึกประจำปี 68 เป็นหน่วยกรมทหารราบผสม ปฏิบัติตามแผนการใช้กำลังทบ. เพิ่มขีดความสามารถให้กำลังพล พร้อมปกป้องผืนแผ่นดินไทยและพี่น้องปชช.
“ภุชงค์” ลุยตรวจสร้างทางพิเศษพระราม 3 เข้ม 5 กฎเหล็กความปลอดภัยโครงการก่อสร้างใหญ่ ป้องกันเหตุซ้ำรอย
"พิชัย" นำเปิดเวทีระดมสมอง รับมือมาตรการกำแพงภาษีสหรัฐฯ ชี้โอกาสสินค้าไทยสอดแทรกแทนจีน เร่งเจรจา FTA ยุโรป

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น