วันที่ 12 พ.ย. 64 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายขับไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.)โพสต์เฟซบุ๊กว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเกิดข้อถกเถียงทั้งในทางหลักการและข้อกฎหมายในวงกว้าง แม้การมีผลผูกพันทุกองค์กรทำให้ประเมินสถานการณ์กันไปต่างๆ แต่ภาพใหญ่ที่มองเห็นคือประเทศยังอยู่ในวิกฤตความขัดแย้ง และสถานการณ์จะยิ่งแหลมคมละเอียดอ่อน โดยทางด้านนายณัฐวุฒิยังได้โพสต์ต่อว่า ตนเองเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าความเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาวไม่มีเจตนาล้มล้างสถาบัน
เรื่องดังกล่าวนายเสกสกล ระบุว่า การที่นายณัฐวุฒิ โพสต์แบบนี้ เป็นเพราะนายณัฐวุฒิเองก็เคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มม็อบราษฎร และเครือข่ายใช่หรือไม่ ถึงได้กล้าการันตี ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ ไม่มีเจตนาล้มล้างสถาบัน นายเสกสกล ยังได้ระบุอีกว่า ที่ผ่านมานายณัฐวุฒิ คงจะหูหนวก ตาบอด ถึงไม่ได้ยิน ไม่เห็น สิ่งที่ นายอานนท์ นำภา รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และไมค์ ภานุพงศ์ จาดนอก รวมถึงเครือข่าย ได้เคลื่อนไหว จาบจ้วงล้วงละเมิดสถาบันมาโดยตลอด ถ้าบุคคลเหล่านี้ไม่มีเจตนาล้มล้างสถาบัน ทำไมถึงจะต้องมีการก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง และมีเจตนาที่จะยกเลิก หรือแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ทำไม
การที่นายณัฐวุฒิ เขียนแบบนี้ เหมือนกำลังท้าทายอำนาจศาลหรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตัดสินด้วยข้อมูลหลักฐาน ไม่ใช่การนั่งตัดสินด้วยความรู้สึกแบบที่นายณัฐวุฒิเขียน ดังนั้นถ้านายณัฐวุฒิ กล้ารับประกันว่าคนพวกนั้นไม่คิดล้มล้างสถาบัน ก็ขอให้นายณัฐวุฒิ ประกาศให้ชัด ๆ รับรองสถานะ และการกระทำของกลุ่มคนเหล่านั้นไปเลย คนไทยจะได้รู้กันชัด ๆ ว่า นายณัฐวุฒิคิดอย่างไรกับการเคลื่อนไหว จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน
นายเสกสกลกล่าวต่อว่า การที่นายณัฐวุฒิ บอกว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเกิดข้อถกเถียงทั้งในทางหลักการและข้อกฎหมายในวงกว้าง อันที่จริงถ้าเคารพคำตัดสินของศาล ทุกอย่างก็จบ เพราะถือเป็นเด็ดขาด แต่เพราะมีคนอย่างนายณัฐวุฒิ ที่ไม่ยอมรับคำตัดสิน ออกมาเขียน แสดงความเห็นคัดค้านอย่างชัดเจน แบบนี้ นายณัฐวุฒิรู้ตัวหรือไม่ว่านี่คือกำลังจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้ง ดังนั้น ขอเตือนนายณัฐวุฒิว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว และเป็นถึงอดีตรัฐมนตรี ควรจะทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับเด็ก ๆ ไม่ใช่จะโพสต์อะไรก็ได้ แล้วไม่มีความรับผิดชอบ บ้านเมืองต้องมีกฎหมาย เอาไว้ควบคุมคนไม่ดี คิดร้ายต่อบ้านเมือง ต่อสถาบัน แต่ถ้าไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่คนส่วนใหญ่เขาเคารพ ก็ไม่ควรอยู่ในประเทศไทยอีกต่อไป นายเสกสกลทิ้งท้าย