นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้มีการหารือกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (11 พฤศจิกายน ) ว่า ในช่วงเดือนกันยายนจนถึงขณะนี้ มีพื้นที่เกษตรกรรมถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 36 จังหวัด คิดเป็นพื้นที่ราวๆ 4 ล้านไร่ ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี แต่เดิมมา มีการชดเชยความเสียหายไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผักไร่ละ 1,940 บาท ซึ่งอัตราการชดเชยดังกล่าวถือว่าน้อยมาก เพราะเทียบไม่ได้กับต้นทุนที่ลงทุนไปต่อไร่ราวๆ 4,500 บาท ดังนั้น ตนจึงอยากขอให้ทางรัฐบาล ช่วยเยียวยาเกษตรกรที่ถูกน้ำท่วมจำนวน 4 ล้านไร่ ไร่ละ 4,500 บาท หรือคิดเป็นเงินทั้งหมดราว 18,000 ล้านบาท อีกทั้ง ขอให้ช่วยเยียวยาประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลากว่า 3 เดือน อย่างน้อยครอบครัวละ 15,000 บาทต่อเดือน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ที่ราคาข้าวเปลือกเจ้าตกต่ำมาก จนมีราคาเหลือเพียงตันละ 5,500 – 5,800 บาท เนื่องจากความชื้นที่ไปส่งถึงโรงสีสูงถึง 15 – 25 % และปัจจุบันรัฐบาลได้มีการประกันราคาอยู่ที่ตันละ 10,000 บาทต่อตัน แต่มีการเทียบกับราคากลางที่ตั้งเอาไว้คือ 8,065.38 บาท ดังนั้น จึงมีการชดเชยรายได้เพียงแค่ 1,934. 62 บาท ต่อตัน ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาล เปลี่ยนวิธีคำนวณราคากลาง ให้เทียบกับราคาที่เกษตรกรไปขายให้กับโรงสีและสหกรณ์ตามความเป็นจริง และอ้างอิงจากราคาตรงนี้ รวมทั้งขอให้มีการพิจารณาเทียบราคาประกันรายได้กับราคาขายจริงกับโรงสี อาทิ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาในสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ด้วย