เมื่อวันที่ 12 พ.ย. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิฉัยว่า 3 แกนนำกลุ่มราษฎรชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ข้อเรียกร้อง 10 ข้อเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองนั้นจะทำให้กลุ่มบุคคลหรือพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุนมีความไปด้วยหรือไม่ว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2563 ตนได้แจ้งความไว้ที่สน.ชนะสงคราม ให้ดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ นายพีระวิทย์ เรืองลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักธรรม และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกลตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 และมาตรา 116 กรณีไปร่วมชุมนุมในสถานที่ห้ามชุมนุม ภายหลังมีภาพทั้ง 3 คนไปชูสามนิ้วกับแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ทั้งที่การชุมนุมที่เกิดขึ้นมีการโจมตีให้ร้ายต่อสถาบันอย่างต่อเนื่อง พฤติกรรมของ ส.ส.ทั้ง 3 นั้นเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนการชุมนุม พร้อมทั้งได้ดำเนินการยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบจริยธรรมกับบุคคลทั้ง 3 ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งในส่วนเรื่องคดีความและที่ป.ป.ช. เพราะถ้าไม่มีพวกชี้นำสนับสนุนก็คงไม่เกิดการชุมนุมได้ ทั้งนี้ตนเป็นห่วงเยาวชนว่าจะตกเป็นเหยื่อ เพราะมีคนยุยง และคนที่อยู่เบื้องหลังเหล่านี้กลับไม่เคยโดนอะไรเลย
นายสิระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังได้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบพฤติกรรมของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าด้วยว่ามีการสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไรบ้าง เพื่อแจ้งความตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ต่อไป ส่วนพรรคก้าวไกลตนคิดว่าน่าจะโดนยุบพรรคด้วย เพราะค่อนข้างชัดเจนว่าสนับสนุนผู้ชุมนุมและการแก้ไขมาตรา 112 อีกทั้งเมื่อวาน (11 พ.ย.) ก็แถลงดิ้น เพื่อมัดตัวเองไปอีก โดยเฉพาะการยุยงให้คนออกไปประท้วงใช้ความรุนแรง
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกข่มขู่ว่าจะมีการหนองเลือด รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงควรเตรียมรับมืออย่างไร นายสิระ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงทำหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว ตนมีความมั่นใจว่าไม่มีอะไร และไม่เกิดความวุ่นวาย เพราะมีไม่มีกลุ่ม และมีไม่กี่คน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีบางสื่อบางช่องตัดตอนคำวินิจฉัยของศาล อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ จนอาจเกิดเหตุความรุนแรงบานปลาย นายสิระในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป