วันนี้ (12 พฤศจิกายน 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โควิด19 จังหวัดเชียงใหม่ ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ยังไม่ลด ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 456 ราย รวมยอดสะสมระลอกเดือนเมษายน จำนวน 21,674 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 82 ราย ส่วนการฉีดวัคซีนของประชาชนชาวเชียงใหม่ ฉีดไปแล้วกว่า 1,277,835 คน จากประชากร 1.72 ล้านคน คิดเป็น 73.89% ขณะที่การตรวจ ATK เมื่อวานนี้ จำนวน 2,827 ราย พบผู้มีผลบวกเพิ่ม 163 ราย
โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดให้ 15 ชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด หรือ Red Zone เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 – 24 พฤศจิกายน หลังพบมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ชุมชนป่าแพ่ง-วังสิงห์คำ , ชุมชนบ้านอุ่นอารีย์ , ชุมชนป่าเป้า , ชุมชนเชียงยืน (บางส่วน) , ชุมชนศรีมงคล (บางส่วน) , ชุมชนพัฒนาบ้านกู่เต้า, ชุมชนช้างคลาน, ชุมชนการเคหะหนองหอย1, ชุมชนการเคหะหนองหอย2, ชุมชนการเคหะเชียงใหม่, ชุมชนสามัคคีพัฒนา, ชุมชนเอราวัณ, ชุมชนศรีวิชัย, ชุมชนคูปู่ลุน และชุมชนโลกโมฬี โดยให้ผู้ที่พักอาศัยในพื้นที่ดังกล่าวทุกคนทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าง เข้ารับการตรวจคัดกรองและเข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมขอความร่วมมือให้งดเข้าออกทั้ง 15 ชุมชน โดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
นอกจากนี้กำหนดให้ร้านสะดวกซื้อและตลาด เปิดได้ตามปกติแต่ไม่เกิน 22.00 น., ร้านอาหารให้จำกัดจำนวนลูกค้า โดยร้านที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งได้ ร้อยละ 50 ส่วนร้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศให้นั่งได้ร้อยละ 75 เปิดให้บริการได้ไม่เกิน 22.00 น. และงดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน และพื้นที่ต่อเนื่อง, ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา ร้านสัก เปิดให้บริการได้ตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. ส่วนบริการอบไอน้ำยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ พร้อมทั้งให้งดจัดกิจกรรมรวมกลุ่มต่าง ๆ เช่น การจัดตลาดนัด งานเลี้ยงสังสรรค์ เป็นต้น หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
ขณะที่ช่วงสายวันนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่บริเวณมัสยิด ชุมชนช้างคลาน อ.เมือง เชียงใหม่ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการตรวจเชิงรุก ATK และฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมายแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดเรดโซน ที่จะทยอยออกตรวจ ATK จำนวน 15 แห่ง ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการสั่งปิดพื้นที่ 14 วัน ตั้งแต่ 11-24 พฤศจิกายน 64
สำหรับจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่ยังไม่มีแนวโน้มลดลง จนทำให้เตียงไม่เพียงพอ ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำระบบ Home Isolation มาใช้สำหรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย โดยเกณฑ์การรับผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบ Home Isolation นั้น จะต้องเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย หรือเป็นผู้ติดเชื้อที่เคยรักษาตัวในโรงพยาบาล แล้วมีอาการดีขึ้น แพทย์จะจำหน่ายออกไปรักษาตัวด้วยวิธี Home Isolation ต่อเนื่องจนครบระยะเวลาการกักตัว ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะต้องยินยอมแยกกักตัวในที่พักของตนเอง และมีสภาพบ้านพร้อมที่จะแยกห่างจากผู้อื่น เช่น อาศัยอยู่ในห้องส่วนตัว หรือมีพื้นที่กว้างพอที่จะนอนห่างจากผู้อื่นได้
เมื่อเข้าสู่ระบบการรักษาด้วยวิธี Home Isolation แล้ว ผู้ติดเชื้อจะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ทันที พร้อมด้วยชุดยาพื้นฐาน ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว และการติดตามอาการจากบุคลากรทางการแพทย์ผ่านทางโทรศัพท์ หรือ Line หรือ VDO Call เป็นประจำทุกวัน หากมีอาการเปลี่ยนแปลงที่แย่ลง โรงพยาบาลที่รับดูแล ก็พร้อมที่จะนำกลับเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลในทันที.