วันที่ 13 พ.ย. 2564 เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ชาญชัย คำดีเกิด สารวัตร(สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยวังกรูดสตึก ว่ามีคนจมน้ำหาย ที่บริเวณถนนเสี่ยงเมืองสะพานใหม่ สตึก-ชุมพลบุรี หมู่ที่ 9 บ้านโรงเลื่อย ต.นิคม อ.สตึก จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลสตึก ก่อนประสานชุดประดาน้ำสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ นำนักประดาน้ำมาช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณสะพานระบายน้ำลำมูล ห่างจากบ้านโรงเลื่อยไปประมาณ 2 กิโลเมตร พบนายเรวัติ มะลิกา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/9 ม.16 ต.นิคม นายมนัสวงษ์ ยุนรัมย์ อายุ 21 ปี ,นายประสิทธิ์ ยุนรัมย์ อายุ 25 ปี ยังอยู่ในอาการตกใจ พร้อมกับเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า ผู้จมน้ำหายไป คือนายบุญเลือน สาจันทร์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 445/2 ม.19 ต.นิคม โดยก่อนหน้านั้น ทั้ง 4 คน ได้ชวนกันมาเล่นน้ำที่กำลังหลากไหลลงแม่น้ำมูล
นายเรวัติ เพื่อนผู้จมน้ำหาย เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 พ.ย. ผู้ตายได้ชวนไปเล่นน้ำที่กำลังหลากอยู่ โดยไปกันทั้งหมด 4 คน ตอนแรกจะไม่ลงเล่นน้ำ แต่ผู้ตายได้ชวนตนเดินลุยน้ำเล่น ซึ่งเป็นน้ำบ่าไหลท่วมถนนลึกประมาณ 100 ซม.ตนจึงไปด้วย ส่วนเพื่อนอีก 2 คนไม่ลงไปด้วย ขากลับตนกับผู้ตายได้เดินลุยน้ำมาใกล้จะถึงที่สูง ผู้ตายเกิดลื่นไถล เสียหลัก แล้วคว้าเอาชายเสื้อของตน ทำให้ปลิวลอยไปกับน้ำทั้งสองคน จึงบอกให้เพื่อนปล่อยเสื้อก่อน เพราะจะเอาไม่ไหว จากนั้นเพื่อนได้หลุดหายไปต่อหน้า ลอยไปกลางแม่น้ำมูลซึ่งน้ำกำลังเชี่ยวอยู่ ก่อนจะรีบไปบอกให้เพื่อนอีกสองคนให้คนมาช่วย
ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด 13 พ.ย.หน่วยกู้ภัยยังงมหาร่างผู้สูญหาย ทั้งระยะใกล้และระยะไกล แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบร่าง ขณะที่หน่วยกู้ภัยระบุ การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะมีหนามของต้นไมยราบยักเป็นจำนวนมาก และน้ำยังลึกและไหลเชี่ยว ซึ่งได้มีการแบ่งทีมค้นหาจนกว่าจะพบร่าง.
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผุ้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์