พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน พร้อมกับอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยระบุว่า การชุมนุมเมื่อวันที่ 12 พ.ย.64 กลุ่มราษฎร บริเวณหน้าศาลอาญารัชดาฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวาย, ขณะที่กลุ่มทะลุแก๊ส ไม่พบว่ามีการรวมกลุ่มในพื้นที่แต่อย่างใด ขณะที่การชุมนุมในวันที่ 13 พ.ย. 64 มีการนัดชุมนุม 3 กลุ่ม คือ ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม เวลา 17.00 น., กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่ศาลฎีกา เวลา 17.30 น. และ กลุ่มทะลุแก๊ส ที่แยกดินแดง เวลา 17.30 น.
ส่วนการชุมนุมในวันที่ 14 พ.ย. 64 กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมกับกลุ่มทะลุฟ้า อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นัดหมายในเวลา 15.00 น. และจะเคลื่อนขบวนไปท้องสนามหลวง ซึ่งตำรวจก็ได้เตรียมกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว การชุมนุมทั้งในวันนี้และพรุ่งนี้ตำรวจนครบาลจัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางและบริเวณใกล้เคียงพื้นที่การชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดการจราจรติดขัด
ทั้งนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดหากมีเหตุใช้ความรุนแรงและก่อความไม่สงบในบ้านเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมซึ่งหน้าได้ก็จะดำเนินการทันที ในกรณีที่จับกุมซึ่งหน้าไม่ได้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีไปแล้ว 783 คดี สั่งฟ้องแล้ว 385 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนอีก 398 คดี
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมาย รวมถึงการสร้างเฟคนิวส์ในสื่อโซเชียลเพื่อยั่วยุปลุกปั่นสร้างความเข้าใจผิด ก็มีความผิดเช่นกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการชุมนุมยังถือว่ามีความผิดตามกฏหมาย ต้องดำเนินคดี