วันที่ 17 พ.ย. 64 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชน ลักษณะข่มขู่สภาฯ หากไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ วิกฤตการเมืองเกิดแน่ โดยระบุว่าหากร่างรัฐธรรมนูญเป็นร่างที่มีเนื้อหาสาระที่ดี หมอชลน่านก็ไม่ควรวิตกกังวลว่าจะผ่านหรือไม่ อีกทั้งสมาชิกรัฐสภาฯทราบดีว่าควรที่จะพิจารณาอย่างไร ดังนั้นหมอชลน่านก็ไม่ควรที่จะนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปอภิปรายเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของม็อบกลุ่มต่างๆในลักษณะของการข่มขู่ว่าหากร่างไม่ผ่านจะเกิดวิกฤตทางการเมือง
นายเสกสกล ยังมองว่าไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจะผ่านหรือไม่ กลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ หรือม็อบ 3 กีบ ก็ไม่เลิกการเคลื่อนไหวสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแน่นอน นอกจากนี้หมอชลน่านยังไม่ควรยกตัวอย่างการชุมนุมวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ชุมนุมถูกยิง 3 คน ลักษณะเช่นนี้เหมือนกับรัฐธรรมนูญรับรองว่าทำได้ แต่หมอชลน่านควรดูข้อเท็จจริงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมอย่างไร สร้างความเดือดร้อน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่เช่นเดียวกัน
และหากหมอชลน่านไม่อยากให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้ชุมนุม ขอแค่บอกไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหว สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนก็เพียงพอแล้ว เพราะหากแก้รัฐธรรมนูญแล้วก็ไม่ช่วยให้ม็อบเลิกสร้างความเดือดร้อน
“พรรคเพื่อไทยเคยสนับสนับสนุนกลุ่มนปช.ลงถนนมา เลยเคยชินกับการลงถนนไม่คิดยึดมั่นในระบบรัฐสภา คำก็ลงถนน สองคำก็ลงถนน จึงทำให้รู้ว่าอีแอบที่ส่งคนลงถนนคือพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่
“อย่าบิดเบือนอำนาจสว. กล่าวหาแบบเป็นเท็จ เพราะหากคนที่พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นนายกฯไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่สามารถจะเสนอชื่อให้สว.พิจารณาได้อยู่แล้วมิใช่หรือ ไม่ว่าจะเป็นใครบรรดาสว.ก็คงจะฟังเสียงประชาชน ถ้าประชาชนเลือกพรรคไหนมาเป็นอันดับหนึ่งมาเป็นแกนนำเพื่อจัดตั้งรัฐบาล และพรรคนั้นๆเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ สว.ก็คงลงมติเลือกนายกฯจากพรรคนั้น สว.มิอาจ กล้าปฎิเสธความต้องการของประชาชนที่พรรคชนะอันดับหนึ่งได้รับฉันทานุมัติจากเสียงของประชาชนผ่านสนามเลือกตั้งมา
ดังนั้นอย่าบิดเบือนสว.ให้เสียหายและอย่าใช้พฤติกรรมแบบนายใหญ่มาเที่ยวขู่เล่นการเมืองแบบนอกกติกายุแหย่ให้ประชาชนลงถนนอีกเลย หมอชลน่านพูดแบบนี้ เท่ากับแก้ผ้าเปิดหน้าพรรคเพื่อไทย ชอบเล่นการเมืองนอกกติกาและชอบสนับสนุนม็อบลงถนนจนทำให้ประชาชนและบ้านเมืองเดือดร้อนเหมือนในยุคปี 52 ปี 53 ยังไม่เข็ดหลาบเลยใช่ไหม