เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนันต์ สุวรรณปาน ผู้บริหารโรงเหล้าแสงจันทร์ นายคฑาวุธ ทองไทย ( ไข่ มาลีฮวนน่า ) ประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมศิลป์หอไตร พร้อมตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการผับ บาร์ และคาราโอเกะ ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.ลาโหม ผ่านพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นตัวแทนรับหนังสือเพื่อเสนอแนวทางการปฏิบัติของสถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะ ก่อนเปิดให้บริการ และแนวทางปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19
โดยภายหลังการหารือ นายอนันต์ กล่าวว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่มีความเป็นห่วงผู้ประกอบการ ซึ่งทางกลุ่มได้นำเสนอรายละเอียดมาตรการต่างๆ ผ่านทางเลขา สมช. และรู้สึกสบายใจขึ้น หลังทราบแนวคิดต่างๆ จากทางภาครัฐ และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการต่างๆ ออกมาจากทาง ศบค. ซึ่งผู้ประกอบการก็ยินดีที่จะปฏิบัติตาม ในทุกมาตรการที่ออกมา เพื่อให้การเปิดประเทศสัมฤทธิ์ผล ทั้งนี้คาดว่าแนวทางมาตรการที่จะออกมา จะเป็นในรูปแบบวิถีใหม่ หรือมีวิธีการใหม่ๆ เช่น โรงเหล้าแสงจันทร์ ซึ่งเป็นผับ จะมีการปรับเป็นร้านอาหาร โดยมีการเปิดไฟส่องสว่างมากขึ้น ปรับรูปแบบวงดนตรี โดยลดสมาชิกในวง ให้มีจำนวน 3-4 คนต่อวง เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ก่อน แต่ในส่วนของการเต้นรำภายในร้าน ก็คงต้องงด โดยขณะนี้ทางร้านต่างๆ กำลังดำเนินการขอมาตรฐาน เพราะไม่อยากให้ผับบาร์กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงในการแพร่ระบาดโควิด-19 หากมีความเสี่ยงอีก นายกรัฐมนตรีและประชาชนกลุ่มอื่นๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย
เมื่อถามว่าทางกลุ่มผู้ประกอบการ ได้ยื่นข้อเสนอ ขอให้เปิดได้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 1 ธ.ค.นี้ หรือไม่ นายอนันต์ กล่าวยอมรับว่า ได้เสนอขอให้เปิดให้เร็วขึ้น แต่ต้องให้ทาง ศบค. พิจารณาก่อน แต่ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงว่า ในช่วงนี้เพิ่งมีการเปิดประเทศ รวมถึงเปิดภาคเรียนต่างๆ จึงอยากขอให้ผู้ประกอบการใจเย็น ทั้งนี้ ในส่วนของโรงเหล้าแสงจันทร์นั้น ได้ปิดให้บริการมานานถึง 8 เดือนแล้ว จึงต้องออกมาเรียกร้อง เพื่อให้ภาครัฐออกมาตรการ ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอของทางกลุ่มผู้ประกอบการ จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ต่อไป เพราะเลขาฯ สมช. ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการ ก็จะรอคำตอบจาก ศบค. แม้จะต้องการให้มีการเปิดเร็วขึ้น โดยในช่วงนี้พนักงานของร้านก็อยู่ในช่วงปรับปรุงร้าน เพื่อให้เข้ามาตรฐานไปก่อน
“มาตรการของร้าน ผมตั้งธงไว้เลย พนักงานทุกคนต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 โดส และ ผู้มาใช้บริการทุกคน ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน อย่างน้อย 2 โดสเหมือนกัน ถามว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ เพราะว่าในเมื่อบอกว่าเราเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่หากพนักงานฉีดวัคซีน และผู้ใช้บริการฉีดวัคซีน อยู่ด้วยกัน ความเสี่ยงก็น้อยลง และ การตรวจ ATK ของพนักงานจะตรวจทุกอาทิตย์เพื่อป้องกันไว้ก่อน”
