ไม่รู้จริงแท้แค่ไหน กับกระแสข่าวในแวดวงสีกากีที่เขาร่ำลือกันว่า ยุคนี้สมัยนี้ ไม่ใช่ยุครุ่งเรืองของนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 49 เหมือนครั้งเก่าก่อน การเข้ามามีบทบาทหน้าที่ตำแหน่งสำคัญต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงไม่ค่อยจะโดดเด่นหากเทียบกับรุ่นใกล้ๆ กันอย่าง นักเรียนนายร้อยรุ่น 50 , 51
พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย” หรือ “หนุ่ย” นายตำรวจติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นอีกหนึ่งในทำเนียบรุ่น 49 ที่คำสั่งแต่งตั้งล่าสุดมีรายชื่อขึ้นเป็น รองผู้บังคับการ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาลกลาง มีชื่อเสียงโด่งดังพลังมากในยุครัฐบาล “ชินวัตร” รุ่งเรือง และถึงแม้วันนี้การเมืองจะเปลี่ยนขั้วอำนาจไปแล้ว แต่ความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อนายเก่ายังดำรงสืบต่อไป ตามที่ใครๆ ได้เห็นเขาไปปรากฏอยู่ในสื่อต่างๆ บ่อยครั้ง ในฐานะบอดี้การ์ดรู้ใจ ไปไหนไปกัน
ย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2560 ระหว่างที่อดีตนายกฯ ปู หนีหายล่องหน “ผู้กำกับหนุ่ย” ปฏิเสธรู้เห็นการหายตัวลึกลับ และได้กล่าวกับคนใกล้ชิดว่า …”ไปรออยู่ที่บ้าน แต่กลับไม่พบตัวเช่นกัน ไม่ได้ร่วมเดินทาง หรือไปส่ง แม้กระทั่งพาตัวนายหญิงหลบหนีแต่อย่างใด”
อีกครั้งสำหรับกระแสข่าวเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา เมื่อภาพของ พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย เฉิดฉายเคียงข้างนายหญิง และ นายทักษิณ ชินวัตร ระหว่างร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เป็นเดือดเป็นร้อนถึงพี่ใหญ่อย่างบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาแอ็กชั่น พร้อมระบุว่า ขณะนี้ผู้กำกับหนุ่ยได้ถูกพักงาน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอยู่แล้ว และขณะนี้เขาเดินทางกลับมายังประเทศไทยแล้ว จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขึ้นอยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้พิจารณา
ถึงแม้ผู้เป็นนายที่ดูจะยิ่งใหญ่กว่า อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” จะถูกถอดยศ เพราะเป็นนักโทษหนีคดี แต่สำหรับ บอดี้การ์ดหน้าหล่อคนนี้ จะเจอกระแสข่าวโจมตีกี่กรณีที่ไปรับใช้ขั้วอำนาจเก่า ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังอยู่ในตำแหน่งและรับราชการเหมือนเดิม ไม่เรียกว่ามีพลัง และจะให้เรียกว่าอะไร
เพื่อนร่วมรุ่นของผู้กำกับหนุ่ย เคยเล่าให้ฟังว่า “หนุ่ยไม่ค่อยจะให้ความสนิทสนมกับใครในรุ่นมากนัก มีกลุ่มเพื่อนที่เขาไปมาหาสู่ด้วยไม่กี่คน ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่เล่นกีฬาฟุตบอลด้วยกัน เอาจริงๆ ก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรในกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่น เพราะเขาแยกไปเติบโตทางสายการเมืองชัดเจน และเดินทางสายนั้นสายเดียว การเมืองเปลี่ยนขั้ว เขาก็ยังปฏิบัติหน้าที่ของเขาเหมือนเดิม และไม่ค่อยจะปรากฏตัวในงานเลี้ยงรุ่น น่าจะเพราะภารกิจเยอะ เป็นแบบนี้มานานแล้ว”
“ส่วนฉายา “สารวัตรเทวดา” ของเค้านี้น สื่อก็ตั้งชื่อให้เป็นกระแสไปอย่างนั้นแหละครับ ก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเทวดามาจากไหนนะครับ เป็นคนธรรมดาๆ นี่แหละ หรืออาจจะเพราะเติบโตเลื่อนระดับ อยู่ในขั้วอำนาจเก่า และได้รับความไว้วางใจจากบุคคลสำคัญของประเทศสมัยนั้นหรือเปล่า แต่ทำไมต้องสารวัตรเทวดา ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ”
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไร ที่เห็นเพื่อนเป็นข่าวในสื่อบ่อยๆ? “รู้สึกชิน เพราะว่าเป็นแบบนี้มานานแล้ว ดูเพื่อนก็ปกติสบายดี ไม่ได้มีอะไรเดือดร้อนใจ เขาก็คงชินกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย บทบาทหน้าที่แต่ละคนก็แตกต่างกันไป ไม่ได้ไปก้าวก่ายอะไรกัน ส่วนอันไหนผิด อันไหนถูก ก็ว่ากันไปครับ”…. เพื่อนนักเรียนนายร้อยร่วมรุ่นผู้กำกับหนุ่ย กล่าว
เส้นทาง “สารวัตรเทวดา” ที่มาของฉายา ผู้กำกับหนุ่ย ย้อนกลับไป เมื่อหลังจากเกิดการรัฐประหาร จนเมื่อปี 51 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ขณะนั้น ได้เซ็นคำสั่งโยกย้ายให้ผู้กำกับหนุ่ย หัวหน้าชุดคุ้มกันคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ถูกส่งไปเป็น สว.สป.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 50 แต่ภายหลัง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้น ได้มีคำสั่งขอตัวผู้กำกับหนุ่ยมาช่วยราชการในสำนักงาน รอง ผบ.ตร. และทันทีที่ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงมีคำสั่งโยกย้ายผู้กำกับหนุ่ยกลับสันติบาลเป็น สว.ฝขว.10 บก.ส.1 มีหน้าที่ดูแลเขต “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ของคุณหญิงพจมาน เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 51
ต่อมาในปี 55 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ผบ.ตร.ขณะนั้น ได้เซ็นแต่งตั้งนอกวาระให้ผู้กำกับหนุ่ยขยับขึ้นเป็น รอง ผกก. ในตำแหน่งผู้ช่วยนายเวร (สบ.3) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ซึ่งการแต่งตั้งในครั้งนี้ถือเป็นการแต่งตั้งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเหลือระยะเวลาเพียงแค่เดือนเศษก็จะถึงวาระการแต่งตั้งประจำปี แต่ปรากฏว่ายังเห็นผู้กำกับหนุ่ยทำหน้าที่อารักขา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามเดิม
ถัดจากนั้นไม่นาน วันที่ 14 มิ.ย. 56 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ขณะนั้น ได้เซ็นแต่งตั้งผู้กำกับหนุ่ยในตำแหน่งผู้ช่วยนายเวร (สบ.4) เทียบเท่าตำแหน่งผู้กำกับ โดยใช้วิธียกเว้นกฎ ก.ตร. เฉพาะรายชื่อ เนื่องจากผู้กำกับหนุ่ยเองอยู่ในตำแหน่งรอง ผกก.ไม่ครบ 3 ปี จึงยกเว้นหลักเกณฑ์! โดยทาง พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก สตช. ขณะนั้น ระบุว่า “ผู้ช่วยนายเวรเป็นเสมือนเลขาฯ ทำงานใกล้ชิด จึงต้องเลือกผู้ที่ไว้วางใจได้”
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช.ในสมัยนั้น เผยถึงอนุญาตให้ผู้กำกับหนุ่ยไปปฏิบัติหน้าที่ให้ความคุ้มครองติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น เนื่องมาจากสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ได้มีหนังสือขอผ่านทางกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ให้ไปช่วยปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย โดยให้เหตุผลว่าเป็นบุคคลสำคัญ ถึงแม้ว่าพ้นจากตำแหน่งนายกฯ แล้วก็สามารถขอเจ้าหน้าที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัยได้
ชื่อของ “พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย” เป็นที่ไว้วางใจและเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของตระกูลชินวัตร โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ทำหนังสือมาถึง สตช. ระบุเฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นผู้กำกับหนุ่ย ทำให้ พล.ต.อ.อดุลย์ เซ็นคำสั่งให้ผู้กำกับหนุ่ยไปช่วยราชการดูแลความปลอดภัย เนื่องจากมีความคุ้นเคยและอารักขาคนในตระกูลชินวัตรมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนมาถึงอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จวบจนปัจจุบัน.