วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญรวี ยมจินดา อายุ 70 ปี ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนากลาง อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทีมงาน ได้นำหลักฐาน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เอกชัย สุทธิมา สว.สอบสวน.สภ.สูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา หลังจากพบเครื่องติดตาม (จีพีเอส) อยู่ภายในรถเบนซ์ ส่วนตัว เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายบุญรวี เปิดเผยว่า เดิมทีตนเป็นกลุ่มต่อต้านไม่เอาโรงไฟฟ้าขยะแห่งหนึ่ง เนื่องจากว่าจะมาสร้างมลพิษให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ต่อมามีการรับสมัครนายกอบต ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน นี้ ตนจึงลงสมัคร พร้อมเสนอนโยบายชัดเจนว่าไม่เอาโรงไฟฟ้าขยะ และจะพัฒนาพื้นที่ หลังจากนั้นตนก็พบว่ามีคนมาแอบถ่ายรูปที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง พร้อมทั้งมีคนขับรถตามเป็นประจำ จึงสงสัยว่าน่าจะเป็นการคุกคาม จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี ซึ่งตนเองก็มีการระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษอยู่แล้ว หลังจากนั้นตนจึงได้นำรถเบนซ์ คันเก่าไปขายเทิร์น ที่อู่รถแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา และบอกให้ช่างรื้อกล้องหน้ารถออกมาให้ด้วย ในระหว่างที่ทำการรื้อถอนช่างพบว่ามีเครื่องติดตาม GPS อยู่ภายในคอนโซลรถเบนซ์ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าใครมาแอบติดตั้ง ตอนไหน จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เพราะว่าช่วงนี้ใกล้เลือกตั้ง และในพื้นที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งตนเองก็เป็นห่วงเรื่องชีวิตและทรัพย์สิน และอยากให้มาต่อสู้กันในเชิงนโยบายมากกว่าเล่นกันสกปรกแบบนี้
ด้าน วิวรรธน์ ชื้อรัตนากร อายุ 61 ปี เจ้าของร้านศักดิ์ศรีคาร์เซ็นเตอร์ เล่าว่า เมื่อวานนี้ นายบุญรวี ผู้สมัคร นายก อบต.ได้เอารถเบนซ์คันเก่ามาขายเทิร์น และแจ้งว่าให้ถอดกล้องหน้ารถออก ต่อมาพบเครื่องติดตาม GPS อยู่ภายในคอลโซลรถเบนซ์จึงได้แจ้งเจ้าของให้ทราบ กับเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนสาเหตุของการติดตั้งตนไม่รู้เพราะอะไร.
ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา