เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 64 นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในการลงมติเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญภาคประชาชน เมื่อวานนี้ว่า ตนมีเหตุผล 2 อย่าง คือ 1.เพื่อสนับสนุนหรือส่งเสริมหลักการมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยชอบธรรมของภาคประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นในสภาฯ เหมือนกับที่ ส.ส. แสดงความคิดเห็น แต่จะต้องมีผู้เข้าชื่อ 50,000 ชื่อขึ้นไป ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มีประชาชนเข้าชื่อประมาณ 1.3 แสนคน ฉะนั้นจึงต้องให้เกียรติและช่วยทำให้การแสดงความคิดเห็นได้ปรากฏในสภา ซึ่งวาระนี้เป็นแค่ชั้นรับหลักการ เมื่อรับหลักการไปแล้วในวาระ 2 ก็จะมีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) มากลั่นกรองว่าจะมีความเป็นไปได้อย่างไรบ้าง ฉะนั้นในขั้นแรกตนคิดว่าเป็นความชอบธรรมที่รัฐสภาจะได้รับฟังความคิดเห็นอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ตนไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาหลายส่วนแต่ก็ไม่ได้เอาเนื้อหาเป็นหลัก แต่เอาในแง่ของความชอบธรรมของการมีส่วนร่วมภาคประชาชน และ 2.เพื่อยืนยันว่ารัฐสภานี้เป็นรัฐสภาของประชาชน เป็นเวทีแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของประชาชนทุกภาคส่วน ขอแค่เข้ามาโดยถูกต้อง
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าหากร่างนี้ผ่านจะมีเรื่องของการยกเลิกส.ว. นายเนาวรัตน์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นไปไม่ได้ ตนคิดว่าในชั้นกมธ.ต้องใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการมีสภาสูง ซึ่งที่ต้องมี ส.ว. เพราะความไม่พร้อมในทางการเมืองของส.ส. คือ พรรคการเมืองไม่เข้มแข็งและระบบการเลือกตั้งยังไม่โปร่งใสเท่าที่ควร ตนเคยนิยามความหมายของประชาธิปไตยไว้ว่า 1.การได้มาซึ่งอำนาจต้องชอบธรรม 2.การทรงไว้ซึ่งอำนาจต้องชอบธรรม 3.การใช้อำนาจต้องชอบธรรม และ 4.การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนต้องชอบธรรม หากถามว่าอำนาจมีไว้เพื่ออะไร ก็เพื่อนำมาบริหารจัดการในเรื่องที่เป็นประโยชน์สุขของส่วนรวมเป็นหลัก
“ตราบใดที่การเมืองของเรายังไม่เข้มแข็งพอ ระบบต่างๆ ยังไม่มีพื้นฐานที่แน่นหนา ยังมีการปฏิวัติ รัฐประหารอยู่เรื่อยๆ การเข้ามาสู่อำนาจจึงยังไม่หนักแน่นพอ จึงจำเป็นจะต้องมีวุฒิสภา ซึ่งเรื่องที่มาของส.ว.กับการลดทอนอำนาจ หรือการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องของส.ว. เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะพิจารณากลั่นกรองกันได้ในวาระต่อไป หากเห็นว่าไม่สามารถเป็นไปได้ก็ไม่ต้องรับในวาระที่ 2” นายเนาวรัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายกังวลว่าเมื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบสภาฯ จะทำให้อุณหภูมิทางการเมืองสูงขึ้น นายเนาวรัตน์ กล่าวว่า แล้วแต่ว่าจะมองกันอย่างไร แต่ตนเห็นว่าหากรับไว้ก็จะช่วยบรรเทาความร้อนแรงทางการเมืองภายนอกได้ ซึ่งก็น่าจะเห็นเจตนาดีของสภาฯ ที่ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่าสิ่งที่คุณกำลังทำเป็นอย่างไร ตนยืนยันว่านี่เป็นเวทีแสดงความคิดเห็น ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็เป็นอีกประเด็น
เมื่อถามว่า หากภาคประชาชนสามารถเข้าชื่อได้ครบตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด และยื่นมาที่รัฐสภาอีกครั้ง ยังยืนยันที่จะสนับสนุนในส่วนนี้ต่อไปอีกหรือไม่ นายเนาวรัตน์ กล่าวว่า “ในวาระแรกผมสนับสนุนทั้งนั้น อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าสภาฯ ไม่ได้ปิดกั้น หากไม่รับไปทั้งหมด ประชาชนก็จะสะท้อนว่าเสนอไปเท่าไหร่สภาก็ไม่รับ ประชาชนจะได้ไปกลั่นกรองว่าการเสนอนั้นต้องมีเหตุผลที่ชอบธรรมสอดคล้องกับความเป็นจริง”