เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการติดตั้งเครื่องสูบน้ำของกรมชลประทาน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา โดยมีผู้อำนวยการศูนย์ ปภ.เขต 12 หัวหน้าสำนักงานชลประทานที่ 16 หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นายอำเภอระโนด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมติดตามสถานการณ์
นายนิพนธ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอระโนดได้รับผลกระทบจากการไหลผ่านของปริมาณน้ำที่มาจากจังหวัดพัทลุง นครศรีธรรมราช ลงสู่ทะเลสาบสงขลา ส่งผลให้การระบายน้ำไม่ทัน ทำให้น้ำล้นเข้าท่วมคาบสมุทรสทิงพระที่ครอบคลุมทั้ง 4 อำเภอของสงขลา ตนจึงได้สั่งการถึงสำนักงาน ปภ.สงขลา ศูนย์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 พร้อมประสานกรมชลประทาน ระดมติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา รวมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และโครงการชลประทาน สนับสนุนติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้วอีก 3 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรและชุมชน ลงสู่คลองอาทิตย์ คาดการณ์ว่า หากไม่มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่สถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายใน 1-3 วันนี้
“ทั้งนี้ ผมได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้สำรวจและเฝ้าระวังจุดเสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมในการอพยพชาวบ้านได้ทันท่วงที เป็นความห่วงใยของรัฐบาลที่ยังเน้นย้ำให้รักษาชีวิตเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หากเกิดเหตุการณ์ขึ้น พร้อมเตือนให้พี่น้องประชาชนติดตามรับฟังการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ให้สามารถปฏิบัติงานได้ทันที เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด สำหรับสถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่จังหวัดสงขลา ที่เกิดลมรสุมปกคลุมบริเวณอ่าวไทย ทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ คาบสมุทรสทิงพระ ติดต่อกันหลายวัน ตั้งแต่วันที่ 9 – 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเอ่อล้นท่วมขังบ้านเรือนและไร่นาของพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ หมู่2,3,4 ตำบลวัดสน หมู่ 2,4,5 ตำบลบ่อตรุ หมู่ 3,10 ตำบลท่าบอน อำเภอระโนด มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนร่วม 1,550 ครัวเรือน ทุกภาคส่วนยังคงเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง” นายนิพนธ์ กล่าว
