วันนี้ (18พ.ย.) พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก หรือ ททบ.5 นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์โครงการศึกษาวิจัยแปรรูปกัญชง และสมุนไพรไทย โดยสนับสนุนองค์ความรู้เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยการแปรรูปกัญชงและสมุนไพร เพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ การดูแลสุขภาพ และทางการค้าต่างๆ
นายแพทย์ยงยศ กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลการศึกษาวิจัยแปรรูปกัญชงและสมุนไพรไทยในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมและพัฒนากัญชงที่มีคุณภาพสูงมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นแนวทางการใช้พืชสมุนไพรไทยในการฟื้นฟูประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19 และชูสมุนไพรไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพื่อการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพของประเทศ ความเชื่อมั่น ผลักดันยาแผนไทยสู่ชุดสิทธิประโยชน์และบัญชียาหลักแห่งชาติ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการฟื้นฟูสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก ในหน่วยบริการปฐมภูมิ เพื่อลดภาระให้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ด้วย
ด้านพลเอกรังษี กล่าวว่า ททบ.5 ในฐานะทีวีที่ให้บริการสาธารณะ เพื่อความมั่นคงมีนโยบายสนับสนุนองค์ความรู้เกี่ยวกับภาคการเกษตร จึงเล็งเห็นว่ากัญชงมีสารสำคัญที่สามารถนำไปสกัดเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อรักษาโรคและดูแลสุขภาพได้อย่างหลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการจากตลาดทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับเกษตรกร ได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากนี้ทั้ง ททบ.5 และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะพัฒนาศูนย์เรียนรู้ วิจัย และพัฒนาพืชกัญชง ที่ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี นำร่องทดลองปลูกกัญชง ก่อนจะสกัดและแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
สำหรับพืชกัญชงนั้น เป็นพืชที่จะต้องนำตัวช่อ หรือตัวดอกมาสกัดสาร CBD เพราะฉะนั้นการปลูกต้นกัญชงในร่ม หรือในมุ้ง ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง และการรดน้ำ จะรดตามปกติไม่ได้ จึงได้มีการพัฒนาให้มีรดน้ำผ่านระบบมือถือแบบหยด ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีและเป็นอนาคตที่สดใสของเกษตรกรไทย
หลังจากนี้ทางททบ.5 และ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะร่วมกันเสนอการปลูกที่ให้ได้ผลมากที่สุด หรือปลูกอย่างไรเพื่อที่จะให้ได้สาร CBD หรือการสกัด หรือการแปรรูป รวมทั้ง ททบ.5 จะช่วยในส่วนของการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นขอให้เกษตรกรไทยหันมาดูช่องททบ.5 เพื่อที่จะนำข้อมูลที่เผยแพร่ไปศึกษาและลงมือทำ จะได้ช่วยสร้างรายได้และอาชีพอย่างยั่งยืนต่อไป