ศาลทุจริตฯ เบิกตัว ผกก.โจ้ พร้อมพวกขึ้นศาล ไต่สวนปมคลุมถุงดำนัดแรก! ล่าสุดยังปฏิเสธไม่ได้ฆ่าโหด!!!

ศาลทุจริตฯ เบิกตัว ผกก.โจ้ พร้อมพวกขึ้นศาล ไต่สวนปมคลุมถุงดำนัดแรก! ล่าสุดยังปฏิเสธไม่ได้ฆ่าโหด!!!

ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามนัดสอบคำให้การผู้กำกับโจ้และพวกรวม 7 ราย เบิกตัวจำเลยมาศาล ล่าสุดผู้กำกับโจ้และจำเลยปฏิเสธ ไม่ได้ฆ่าโดยวิธีการทารุณโหดร้าย ขณะที่ศาลเตรียมนัดตรวจพยานหลักฐานและสืบพยานมกราคมปีหน้า

ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเขตดุสิตศาลนัดสอบคำให้การคดีพันตำรวจเอกธิติสรรค์อุทธนพล อดีตผู้กำกับสภเมืองนครสวรรค์และจำเลยอีก 6 ราโดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 7 ราย มาศาลตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบประจำอยู่โดยรอบพื้นที่ศาล ส่วนสื่อมวลชนเจ้าหน้าที่ศาลได้ทำการคัดกรองและติดสติ๊กเกอร์ให้กับสื่อมวลชนที่ต้องการขึ้นไปฟังคำพิจารณาในห้องพิจารณา

สำหรับบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดี ศาลได้แบ่งห้องพิจารณาให้ญาติฝ่ายจำเลย ห้องสื่อมวลชนนั่ง ฟังแบบแยก ตามมาตรการป้องกัน covid 19 ขณะที่ผู้กำกับโจ้และพวกเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปที่ห้องเวรชี้ มีทนายความ 5 คนนำโดยทนายความโชคชัย อ่างแก้ว และอัยการฝ่ายโจทก์ นอกจากนี้มีรายงานว่า ญาติผู้เสียหายได้ตั้งทนายร่วมเข้าต่อสู้คดีด้วย โดยศาลได้เริ่มสอบคำให้การในเวลา 9:30 น

ขณะเดียวกันมีบรรดาญาติของจำเลยทั้ง 7 รายเดินทางมาที่ศาลกันครบ โดยบางรายมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่ให้สัมภาษณ์สื่อก่อนเดินขึ้นห้องพิจารณาคดีไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้กำกับโจ้มีน้ำมีนวลขึ้นรวมไปถึงจำเลยรายอื่น

เมื่อผู้พิพากษาขึ้นนั่งบัลลังก์ได้แจ้งสิทธิต่อจำเลย และสั่งให้มีเพียงทนายความ และตัวจำเลย อัยการโจทก์ และเจ้าหน้าของกรมราชทัณฑ์อยู่ภายในห้องเท่านั้น ก่อนที่จะอ่านคำฟ้องให้จำเลยทั้ง7 ฟัง โดย พ.ต.อ ธิติสรรค์ จำเลยที่1 ให้การรับสารภาพ ในความผิดฐาน เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา157 // และม.172 ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ และรับสารภาพในฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น แต่ปฏิเสธตามข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยการกระทำอันโหดร้าย ตามมาตรา289

โดย “ผกก. โจ้” แถลงต่อศาลว่า ตนเองและลูกน้องไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่ต้องการต้องารขยายผลการจับกุมยาเสพติด ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาสังคม ยืนยันมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่มีเจตนากระทำการทุจริตใดๆต่อหน้าที่ หรือเรียกรับผลเงินจากผู้ตายจึงขอความเมตตาต่อศาล มีผู้กำกับโจ้ยังยืนยันต่อหน้าศาลว่า ตนเองไม่มีเจตนาทุจริตต่อหน้าที่หรือเรียกรับผลประโยชน์ต่อ ผู้ต้องหาแต่อย่างใด

ส่วนจำเลยที่เหลือ ต่างให้การรับและปฏิเสธข้อหาแตกต่างกันไป โดยจำเลยทุกคนต่างอ้างว่า กระทำการไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และไม่มีเจตนาที่จะประสงค์ต่อชีวิตของผู้ตาย โดยขณะนี้ศาลอยู่ระหว่างนัดวันตรวจพยานหลักฐานและกำหนด วันนัดสืบพยาน คาดว่าจะมีการนัดตรวจพยานหลักฐานและสืบพยานภายในเดือน มกราคม 2565

ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องพิจารณาคดีด้วยว่า ศาลอธิบายต่อหน้าจำเลยและทนายความว่า คดีดังกล่าว การพิจารณาคดีเหมือนกับคดีอาญาทั่วไป แตกต่างกันแค่ผู้กระทำความผิด คือ เจ้าพนักงานของรัฐ กฎหมายจึงกำหนดให้เร่งพิจารณาคดีให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ประทับรับฟ้องซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวจำเลยและฝ่ายโจทก์หรือผู้เสียหายเอง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น