ยังเหิมเกริม ” ไบรท์” ชินวัตร จันทร์กระจ่าง เรียกร้องให้สถาบันออกมาพูดปมเจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่ อัยการสูงสุดนัด ส่งฟ้องต่อศาลอาญาในฐานกระทำผิดตามมาตรา 112 กรณีขึ้นปราศรัยหัวข้อ “การโอนย้ายทรัพย์สินส่วนของพระมหากษัตริย์มาเป็นส่วนของพระองค์” หน้าธนาคาร SCB พหลโยธิน เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 63
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อัยการสูงสุดนัดส่งตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง, ทนายอานนท์ นำภา, นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท และ นางสาววรรณวลี เอมจิตต์ หรือ ตี้ พะเยา นายพงศธรณ์ ตันเจริญ, นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา ส่งฟ้องต่อศาลอาญาในฐานกระทำผิดตามมาตรา 112 กรณีขึ้นปราศรัยหัวข้อ “การโอนย้ายทรัพย์สินส่วนของพระมหากษัตริย์มาเป็นส่วนของพระองค์” หน้าธนาคาร SCB พหลโยธิน เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 63 พร้อมส่งฟ้องอีก 26 คน ในฐานกระทำผิดตามมาตรา 112 กรณีชุมนุมขึ้นปราศรัยหัวข้อ “ทวงวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และ บ้านพักประยุทธ์” บริเวณ ห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 63
นายชินวัตร หรือ ไบร์ท แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี เผยว่า วันนี้ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลอัยการหลังถูกอัยการส่งฟ้องคดี 112 กรณีขึ้นปราศรัยที่บริเวณหน้า SCB และห้าแยกลาดพร้าว ตนได้ขึ้นไปพูดเกี่ยวกับเรื่อง การโอนย้ายทรัพย์สินส่วนของพระมหากษัตริย์ มาเป็นของส่วนพระองค์ โดนแจ้งข้อหาดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นคดีตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ยังไม่โดนส่งฟ้อง ตนยังสงสัยว่าทำไมถึงยังมีการบังคับใช้มาตรา 112 กับประชาชน ทั้งๆที่มีพระบรมราชโองการลงมาถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ส่วนตัวแล้วเห็นว่า ทางสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องออกมาชี้แจงแล้วว่าทำไมถึงยังใช้ข้อบังคับกฎหมายมาตรา 112 อยู่ หรือ สถาบันฯเองมีส่วนเกี่ยวข้อง หากไม่มีความเกี่ยวข้องก็ควรออกมาพูดให้ประชาชนได้รับทราบ ไม่งั้นเหตุจะบานปลายใหญ่ประชาชนก็จะพูดถึงสถาบันในทางที่ไม่ดีต่อไป