ผู้สื่อข่าว Top News ได้รับการร้องเรียนจาก ผู้เสียหายรายหนึ่งนำรถไปซ่อมที่อู่ซ่อมรถย่านไทรน้อยจังหวัดนนทบุรี แล้วรถหาย เจ้าของอู่บ่ายเบี่ยง ไม่ยอมรับผิดชอบ เผย มีโทรศัพท์ลึกลับอ้างเป็นผู้รับจำนำรถ หากอยากได้รถคืนต้องนำเงินมาไถ่
ผู้เสียหายนำไปซ่อมที่อู่รถยนต์แห่งหนึ่งย่านอำเภอไทรน้อยจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ผ่านไป 1 เดือน อู่ซ่อมรถแห่งนี้ทำรถของเธอหาย มีคนร้ายขับออกไปอย่างง่ายดาย
วันที่21 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางมาพูดคุยกับผู้เสียหายรายนี้ ชื่อว่านางสาวพิมพ์ณภัส นวลหงษ์ ที่สำนักงานทนายความรัชพล ศิริสาคร ย่านประชาราษฎร์ นนทบุรี เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า เมื่อวันที่15กันยายน ตนเองขับรถไปชนสุนัขที่จังหวัดนครนายกจนหม้อน้ำแตก ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ทำประกันไว้ เพื่อนก็ได้แนะนำอู่ดังกล่าว จึงตัดสินใจนำรถไปซ่อม เจ้าของอู่ประเมินราคาซ่อมรถแล้วบอกว่า คิดราคาค่าซ่อมแบบเหมาจ่ายในราคา 19,500บาท จึงตัดสินใจโอนเงินค่าซ่อมให้เต็มจำนวน แต่ในใจก็รู้สึก แปลกๆว่าทำไมค่าซ่อมถึงถูก แต่ก็คิดในแง่ดี ในระหว่างนี้ก็ไปติดตามความคืบหน้าการซ่อมตลอด อู่โทรมาแจ้งว่ารถเสร็จวันที่ 13 ตุลาคม
จนกระทั่งวันที่ 18ตุลาคม เจ้าของอู่โทรมาบอกว่ารถหายมีคนขับออกไป ตนเองจึงรีบเดินทางไปที่อู่และขอตรวจสอบดูกล้องวงจรปิด แต่เห็นไม่ชัดว่าใครขับออกไป เวลาในกล้องวงจรปิดระบุเวลา มีคนขับรถออกไปเวลาประมาณตี4ของเช้ามืดวันที่ 18 ตุลาคม ตนเองจึงไปแจ้งความที่สภ.บางบัวทอง ตอนนั้นเจ้าของอู่รถบอกว่า สงสัยลูกค้าคนนึงที่ชื่อหมู เอารถมาซ่อมที่อู่ มาถามว่ารถเก๋งสีขาวคันนี้สวยดีขอออกไปลองขับได้ไหม แต่เจ้าของอู่ไม่ได้ให้ขับไป ตอนนั้นตนเองก็สงสัยว่ารถตัวเองเป็นระบบปุ่มสตาร์ท ถ้าไม่มีกุญแจอยู่ใกล้ตัวรถก็ไม่สามารถสตาร์ทออกไปได้
หลังจากที่รถหาเจ้าของอู่รถก็ให้รถมาใช้แทน แต่ตนเองไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากรถมีสภาพไม่ดี มีกลิ่นน้ำมันรั่วตลอดเวลา จากนั้นไม่นานเจ้าของอู่รถก็มาเจรจาไกล่เกลี่ยว่า มีผู้เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการอู่ซ่อมรถต่อ และเจ้าของคนใหม่จะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเอง โดยการนำรถ Fortuner มาให้ใช้ และมีการตกลงเซ็นสัญญาชดใช้กันเกิดขึ้น แต่สุดท้ายเรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป ตนเองต้องมา ขอความเป็นธรรมผ่านโซเชียลและสื่อต่างๆ
นางสาวพิมณภัส เล่าต่อว่า จากนั้นก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา บอกว่าชื่อตี๋ เป็นผู้รับจำนำรถของตนเอง อยากได้รถคืนก็ต้องนำเงินมาไถ่ ตนเองจึงถามกลับไปว่าใครเป็นคนเอารถมาจำนำ คนชื่อตี๋บอกว่าเป็นเจ้าของอู่ ตอนนี้รถยังจอดอยู่ที่ชายแดน แต่ถ้าหากไม่เอาเงินมาถ่ายรถอาจจะไม่อยู่แล้ว มีเสียงที่นางสาวพิมพ์ลภัสบันทึกไว้
ขณะที่ทนายความรัชพลศิริสาคร ผู้รับเรื่องร้องทุกข์บอกว่า เรื่องดังกล่าวต้องแยกเป็น 2 ประเด็นนั่นก็คือ คดีอาญาผู้เสียหายต้องไปแจ้งความว่าเจ้าของอู่รถกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ถ้าเจ้าของรถยืนยันเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ต้องชี้แจงว่ารถหายไปได้อย่างไร ส่วนอีกประเด็นคือเป็นคดีทางแพ่ง จากการ ฝั่งที่ผู้เสียหายเล่าเจ้าของอู่รถพยายามบ่ายเบี่ยงประเด็นไม่ให้ผู้เสียหายดำเนินคดีอาญาแต่พยายามไกล่เกลี่ยให้เป็นคดีแพ่งโดยการ หารถมาใช้ระหว่างที่รถหาย ยืนยันว่าเจ้าของอู่รถต้องถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ส่วนเรื่องทางแพ่งก็ต้องว่ากันอีกคดี
ผู้เสียหายยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ไปแจ้งความที่สภ.บางบัวทอง ตนเองไม่ค่อยได้รับความร่วมมือกับตำรวจสักเท่าไหร่มิหนำซ้ำยังบอกอีกว่า เจ้าของอู่รถคงไม่เอารถลูกค้าไปจำนำและยังกล่าวหาตนเองว่าเอารถไปจำนำเองแล้วมาสร้างเรื่องหรือเปล่า