วันที่ 22 พฤศจิกายน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนหัวข้อเรื่อง รู้ทันความเคลื่อนไหวทำลายชาติ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 96.5 ระบุ สถาบันกษัตริย์เป็นรากฐานสำคัญของประเทศที่ต้องอยู่คู่กับประชาชน และร้อยละ 96.3 ไม่เห็นด้วยกับขบวนการสั่นคลอนสถาบันกษัตริย์ ที่พยายามบิดเบือน จาบจ้วงก้าวล่วง พาคนลงถนน คุกคามและไม่เคารพผู้อื่น ทำบ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย ทำลายความหวังของประชาชนที่จะร่วมกันฟื้นฟูประเทศ
โดยเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศเคารพ รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะไม่ยอมให้ใครมาจาบจ้วง ก้าวล่วง รวมถึงออกมาเคลื่อนไหวทำลายชาติ สร้างความเดือดร้อนอย่างเด็ดขาด พลังคนไทยส่วนใหญ่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมั่นคง
นายเสกสกล ยังขอให้กลุ่มม็อบ และบางพรรคการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องของสถาบัน ควรฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศบ้าง และการออกมาเคลื่อนไหวจาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบันนั้น ยังเป็นการทำร้ายจิตใจของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศด้วย
และการที่ทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ออกมาประกาศปฏิรูปสถาบันนั้น เพื่อสนับสนุนกลุ่มม็อบ 3 นิ้วให้เคลื่อนไหว และคาดหวังจะได้คะแนนนิยมจากเยาวชนกลุ่มนี้อย่างถล่มทลาย หวังเข้ามามีอำนาจช่วยนายใหญ่ 2 คนที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งหากคิดเช่นนี้ตนเองมองว่าคิดผิด เพราะเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ต้องการให้มีการกระทำการใดๆที่เกี่ยวข้องกับสถาบันอย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้ยังแสดงความสงสารสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคนที่ต้องทนทำตามคำสั่งนายใหญ่ทุกอย่าง เพื่อให้นายใหญ่ได้กลับมา และยังไม่รู้อนาคตของตัวเองว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้เข้ามาเป็น ส.ส.อีกหรือไม่จากนโยบายปฏิรูปสถาบัน ที่ประชาชนมองว่า ใครคิดล้มล้างสถาบัน คนเช่นนั้นเป็นคนหนักแผ่นดิน อกตัญญูต่อบรรพบุรุษ อาจจะถูกประชาชนลงโทษไม่ได้กลับมาเป็นสส.อีก ให้พึงระวังไว้ด้วย”