เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “จับมือ รวมใจ พาไทยรอด” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 ตอนหนึ่งถึงเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำว่ากำลังตั้งคณะกรรมการ มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นแกนหลักร่วมมือกับหลายกระทรวงเพื่อแก้ไขปัญหานี้ว่า กี่ครั้งกี่หนที่เกิดวิกฤตชาติแล้วนายกรัฐมนตรีอาสานั่งหัวโต๊ะเพื่อแก้ปัญหาโดยรวบอำนาจทุกอย่างเอาไว้ ประหนึ่งลำพองตัวเองว่าตนเก่งกาจจัดการได้ทุกเรื่อง แต่ผลที่ออกมาปรากฎว่าไม่มีวิกฤตใดเลยที่พลเอกประยุทธ์พาไปรอด และพอแก้ปัญหาไม่ได้ก็โยนบาปกลับไปให้เพื่อนพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอีกข้อที่น่าสังเกตในคือ การอาสาแก้ปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้ เจ้าภาพควรเป็นกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ดูแลอยู่ การอาสาเข้ามานั่งตำแหน่งประธานบอร์ดแก้จนแบบนี้ต้องถามว่า จงใจจะล้วงลูกเหยียบหัวพรรคประชาธิปัตย์โดยทำเป็นอ้างปัญหาว่ามาจากความล่าช้าของระบบราชการใช่หรือไม่ หรืออีกด้านหนึ่งก็เพื่อต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้ช่วยโยนบาปให้พรรคประชาธิปัตย์ว่า ดูแลถึง 2 กระทรวงใหญ่ แต่ทำไมแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรทำไม่ได้จึงต้องมีการตั้งบอร์ดชุดนี้เพื่อบอกว่าท่านอาสาเป็นอัศวินขี่ม้ามาช่วย ซึ่งคราวนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะขี่ม้าขาวหรือตกม้าตายกันแน่
“เหตุที่ผมต้องสบประมาทนายกตั้งแต่ยังไม่เริ่มเพราะท่านเองไม่เคยรู้ตัวเองเลย เพราะที่ผ่านมาไม่ว่านั่งหัวโต๊ะรวบอำนาจอะไรมาก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย อย่าคิดว่าพี่น้องประชาชนเขาจะลืม เมื่อไม่นานมานี้ก็เคยสร้างผลงานการรวบอำนาจจากกระทรวงสาธารณสุขล้วงลูกจากคุณอนุทินมาแล้ว ผลที่เกิดขึ้นก็ดังที่เห็น วัคซีนมาไม่ทันจนมีคนตายคาบ้านคาถนน ล็อกดาวน์ประเทศจนเศรษฐกิจพังพินาศไปหมด ดังนั้นหากพลเอกประยุทธ์จะมานั่งบริหารแก้จนเองอีกประชาชนคงต้องเตรียมตัวรับชะตากรรม เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ดีไม่ดีอาจจะประสบความยากจนยิ่งกว่านี้อีกก็เป็นได้ เอาเป็นว่าเวลาที่นายกฯออกอาการขยันทีไร ผมอดเป็นห่วงแทนประชนไม่ได้จริงๆ” นายณัฐชา กล่าว