นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับปี 2565 จาก บริษัท ไฟเซอร์ จำกัด (Pfizer) เพิ่มเติม จำนวน 30 ล้านโดส และเห็นชอบการลงนามในสัญญา Third Amendment to Manufacturing and Supply Agreement ระหว่างกรมควบคุมโรคและ บริษัท ไฟเซอร์ จำกัด โดยให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้มีอำนาจลงนามในสัญญาดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้ดำเนินการเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดย บจ.ไฟเซอร์ จะจัดหาวัคซีน Pfizer เพิ่มเติมจำนวน 30 ล้านโดส โดยมีกำหนดส่งมอบในไตรมาสที่ 1 – 3 ของปี 2565 ซึ่งครอบคลุมกรณีที่ บจ.ไฟเซอร์ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงวัคซีนในประเทศไทย (Adapted Product) จากวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้เป็นวัคซีนที่มีการพัฒนาใหม่เมื่อมีการพัฒนาสำเร็จ เป็นวัคซีน Gen ใหม่ที่เป็นวัคซีนสำหรับเด็ก ทั้งนี้ การดำเนินการจัดซื้อวัคซีนเป็นตามสัญญา Manufacturing and Supply Agreement ที่เป็นสัญญาหลัก ทำให้มีจำนวนวัคซีนที่ประเทศไทยจัดซื้อจาก บจ.ไฟเซอร์ รวมทั้งสิ้น 60 ล้านโดส
“การดำเนินการจัดซื้อวัคซีน Pfizer เพิ่มเติมเป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนของประเทศไทย ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ศบค. ด้วยแล้ว