24 พฤศจิกายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ในประเทศไทยช่วงหนึ่ง ว่า การฉีดวัคซีนไม่ใช่เพียงการรับสถานการณ์เปิดประเทศเท่านั้น แต่เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของคนไทย เพราะเรารับนักท่องเที่ยวเข้ามา ขณะเดียวกันคนไทยก็มีการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น เป็นการกลับมาใช้ชีวิตในแนววิถีใหม่ของคนไทย เช่น ผ่อนคลายการเปิดโรงเรียน สถานศึกษา ซึ่งจะทำให้ทั้งครูและนักเรียนมีความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงในตลาด ถ้าพ่อค้าแม่ค้าและผู้ไปใช้บริการได้รับวัคซีนครบถ้วน ก็จะมีความปลอดภัยมากขึ้น
ทั้งนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน การที่เคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคลไปด้วยกันจะทำให้ควบคุมการระบาดไม่ให้เกิดเป็นวงกว้างมากขึ้นและสามารถขับเคลื่อนการเปิดประเทศได้มากขึ้นด้วย ศบค. จึงต้องขอบคุณผู้ที่ไปรับการฉีดวัคซีนและผู้ที่สนับสนุนให้มีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นในทุกหน่วยงาน เป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบของตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ ขณะนี้พยายามรณรงค์ให้ไปฉีดวัคซีนกันให้ได้มากที่สุด แต่ยังมีจำนวนผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มที่หนึ่ง ยังมีอยู่กว่า 10 ล้านคน
ส่วนการรับนักท่องเที่ยวเข้า ทุกช่องทาง เป็นทางอากาศ 4,019 คน พบ มีผู้ติดเชื้อ 8 คน และเมื่อรวมยอดผู้ที่เดินทางเข้ามาทั้งหมด 94,756 คน และถ้าดูจากตั้งแต่วันแรกที่เปิดประเทศพบมีผู้ติดเชื้อ 126 คน คิดเป็น 0.13% ของผู้ที่เดินทางเข้ามาทั้งหมดซึ่งถือว่ายังน้อยมาก
นอกจากนี้ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เก็บข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 63 ถึง 22 พฤศจิกายน 64 มีรายงานบุคลากรทางการแพทย์มีการติดเชื้อ 4,270 คนทั่วประเทศ ประกอบด้วย แพทย์ 198 คน , นักศึกษาแพทย์ 34 คน , วิชาชีพในหน่วยงานสาธารณสุข ได้แก่ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร เวรเปล นักวิชาการสาธารณสุข อสม. รวมถึงพนักงานออฟฟิศที่อยู่ในสถานพยาบาล เช่น แม่บ้านทำความสะอาด เจ้าหน้าที่ห้องยา ห้องแล็ป ห้องเวชระเบียน อย่างไรก็ตามแพทย์ที่ติดเชื้อ 198 คนนั้นถือว่าเป็นจำนวนที่สูง ซึ่งมีทั้งวิสัญญีแพทย์ อายุรแพทย์โรคไต อายุรแพทย์โรคหัวใจ อายุรแพทย์ทั่วไป สูตินารีแพทย์ และแพทย์ปฏิบัติงานห้องฉุกเฉิน