เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2564 พ.ต.ท.พินิจ แก้วศรีทอง สาวัตร (สอบสวน) สภ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ในบ้านนาน 4 วัน กับเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่อยู่เฝ้าศพเพียงลำพัง ภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จึงรุดตรวสอบพร้อมตำรวจสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังใหญ่ มีรถยนต์หรูจอดอยู่ 6 คัน ในบ้านพบเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้หลายอย่าง รวมจานข้าว ขวดและแก้วน้ำดื่ม กระจัดกระจายทั่วบ้าน ตรวจพบศพ น.ส.เกตุมณี อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างที่นอนโซฟา สภาพสวมเสื้อกล้ามสีขาวเพียงตัวเดียว ท่อนล่างเปลือย สภาพศพเริ่มบวมอืด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน ตามร่างกายพบบาดแผลที่บริเวณศีรษะ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าถูกของมีคม หรืออุบัติเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำสอบปากคำ ด.ญ.เอ นามสมมติ ลูกสาวผู้เสียชีวิต วัย 12 ปี ที่อยู่ในอาการช็อกและร้องไห้ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ตลอด 3-4 วันที่ผ่านมา ยังใช้ชีวิตอยู่กินนอน และพูดคุยกับแม่อยู่ตามปกติ คืนที่ผ่านมายังนั่งกินข้าวอยู่กับแม่ เช้าวันนี้ก็ยังเห็นแม่ลุกขึ้นมากินน้ำอยู่เลย จนมาช่วงบ่ายวันนี้เรียกแม่กินข้าว เห็นแม่นอนหลับอยู่ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นขึ้นมาพูดด้วย จึงโทรตามน้าสาวให้ช่วยมาดูที่บ้าน จนพบว่าแม่เสียชีวิตไปแล้ว
ด้านน้องสาวของผู้ตาย กล่าวว่า พี่สาวพักอาศัยอยู่กับลูกสาววัย 12 ปี หลังเลิกรากับอดีตสามีชาวต่างชาติไปนานหลายปีแล้ว ส่วนสามีใหม่แยกตัวไปทำงานดูแลผู้ป่วยต่างอำเภอ นานๆ จะกลับมาบ้านสักครั้ง ก่อนหน้านี้พี่สาวเคยฝากให้ตนคอยมาดูแล และรับลูกสาวออกไปเที่ยวบ้าง เนื่องจากพี่สาวมีอาการป่วยจากโรคประจำตัว และล่าสุดเมื่อวันลอยกระทงที่ผ่านมา ตนโทรมาถามหลานสาวว่าจะชวนไปเที่ยวลอยกระทงด้วย แต่หลานสาวปฏิเสธ บอกว่าอยากอยู่กับแม่ จนช่วงบ่ายวันนี้ (24 พ.ย.) หลานโทรบอกให้ช่วยมาดูแม่ เนื่องจากนอนหลับไปนานมาก เรียกไม่ตื่น จึงรีบมาดูที่บ้านก็พบว่าพี่สาวเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
สำหรับสาเหตุยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนของตำรวจ เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตนำส่ง รพ.เขาคิชฌูฏ เพื่อให้แพทย์ตรวจชันสูตรบาดแผลที่พบบนศพของผู้ตาย เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด
ส่วน ด.ญ.เอ ทางยายและญาติพี่น้องได้รับกลับไปอยู่ในความดูแลแล้ว ทั้งนี้ ทางตำรวจจะเชิญตัวญาติพี่น้องและบุคคลใกล้ชิดมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาความชัดเจนในคดีต่อไป