วันนี้ (25พ.ย.) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ท็อปนิวส์ ถึงบทบาทของแอมเนสตี้ในประเทศไทย ว่า แอมเนสตี้ฯ เข้ามาจัดตั้งในประเทศไทยหลังเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 ภายใต้ชื่อองค์การนิรโทษกรรมสากล จัดตั้งในลักษณะของกลุ่มพลัง แต่มีการเรี่ยไรเงินจากสมาชิก จึงทำให้การดำเนินงานไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาแอมเนสตี้จึงปรับเปลี่ยนระบบการจัดตั้งใหม่ เป็นระบบสมาคมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ ซึ่งสามารถเรี่ยไรเงินและเก็บเงินจากสมาชิกได้พอสมควร แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรับผิดชอบต่อการจัดตั้งสมาคม คือ
1.เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยตรงไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดว่าแอมเนสตี้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
2.แอมเนสตี้วางตัวทางการเมืองไม่เป็นกลาง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผิดกฎ และที่เห็นว่าผิดชัดเจนที่สุดคือแอมเนสตี้จะต้องดำเนินงานไม่ขัดต่อความสงบและเรียบร้อยของบ้านเมือง
3.ทุกครั้งที่แอมเนสตี้เคลื่อนไหวจะต้องใช้คำว่าสมาคมตลอด แต่เมื่อมีการเคลื่อนไหวในประเทศไทย ก็จะใช้คำว่า”แอมเนสตี้”เท่านั้น ซึ่งผิดกติกาของกฎหมายไทย
พล.ท.นันทเดช กล่าวว่า ไม่ทราบว่าในปัจจุบันแอมเนสตี้มีสถานภาพเป็นสถาบัน หรือองค์กรถูกต้องตามกฎหมาย หรือองค์กรเถื่อน เพราะเมื่อจัดตั้งเป็นสมาคมจะต้องมีการจัดทำบัญชี หรือประชุมประจำปี หรือรายงานผลการประชุม หรือรายงานสถานภาพทางการเงิน หรือผู้ตรวจสอบบัญชีของสมาคม ส่งให้กับกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง และเมื่อมีการกระทำที่ผิดเงื่อนไขทางสมาคมแอมเนสตี้ก็อาจจะถูกปิดได้