ความคืบหน้าหลังอัยการมีคำสั่งส่งฟ้องคดี 8 ผู้ชุมนุม คือ นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท , นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ, น.ส.ณัฎฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน , นายพรหมศร วีระธรรมจารี, น.ส.อินทิรา เจริญปุระ หรือ ทราย กรณีชุมนุมที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 63 ในหัวข้อ “ปลดอาวุธศักดินาไทย” เดินทางมารับทราบข้อหามาตรา 112 และมาตรา 116 ตามประมวลกฎหมายอาญา โดยคดีนี้มีผู้กล่าวหา คือ นายวราวุธ สวาย
นายกิตติศักดิ์ กองทอง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยว่า หลังศาลอ่านคำพิพากษาของผู้กล่าวหาทั้ง 6 คน ในข้อหามาตรา 112 และ 116 ได้พิจารณาอนุญาตให้ประกันตัว โดย นายสมยศ ใช้หลักทรัพย์ 200,000 บาท , น.ส.ณัฎฐธิดา และ น.ส.พิมพ์สิริ ใช้หลักทรัพย์ คนละ 100,000 บาท , น.ส.อินทิรา ใช้หลักทรัพย์ 35,000 บาท พร้อมเงื่อนไข ห้ามทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทั้งนี้ตนยังสงสัยว่า ทำไมศาลมีเหตุผลอะไรในการกำหนดเงื่อนไขที่เหมือนกัน ทั้งๆที่มีฐานความผิดที่แตกต่างกัน
ด้าน นายสมยศ เผยว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณศาล ที่ให้สิทธิประกันตัวเพื่อสู้คดี จะได้พิสูจน์ ของกลุ่มราษฎร ว่าทำเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง และต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองไปในทิศทางที่ก้าวหน้า นับเป็นการประกันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกความคิดเห็น และเป็นห่วงกลุ่มราษฎรทั้ง 25 คน ที่ยังอยู่ในเรือนจำ ว่าจะต้องได้รับสิทธิประกันตัวโดยเร็วที่สุด อย่างน้อยที่สุดการที่จะมีการเลือกตั้งภายในปีนี้หรือไม่ก็ปีหน้า จะต้องเป็นพื้นที่เสรีภาพให้กับประชาชนทุกคน เพื่อที่ประเทศจะได้ไปสู่ประชาธิปไตยโดยแท้จริง เราจะได้ยืนยันกับต่างประเทศในการที่จะเชิญ นายกรัฐมนตรี ไปประชุมนานาชาติที่ต่างประเทศในฐานะประเทศประชาธิปไตย ซึ่งตนเข้าใจว่า เหตุที่นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ถูกรับเชิญเพราะมีนักโทษทางการเมืองเยอะ สุดท้ายอยากฝากไปถึง ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กรณีล่า 1 ล้านรายชื่อ ขับแอมเนสตี้ออกจากประเทศ อย่าคิดว่าตำแหน่งมีราคาที่จะประกันได้ อยากท้าให้เอาหัวหรือตำแหน่งของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แทน ผมขอท้า
ขณะที่ด้าน น.ส.ณัฎฐธิดา เผยว่า แต่วันนี้ศาลได้เมตตาให้ ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คน ในวันนี้ ได้มีสิทธิ์ประกันตัว จึงอยากให้ศาลมีความเมตตาต่อ รุ้ง และ เบญจา แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่ยังอยู่ในฐานะนักศึกษามีอนาคต ที่ถูกรัฐบาลยัดเยียดข้อกล่าวหาและคดีต่างๆและไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งสิทธิเสรีภาพควรมีกับทุกคน พวกเราแค่เพียงมีความคิดเห็นต่างทางการเมืองไม่ใช่อาชญากรรม จึงอยากให้ตามีความเมตตา กลับ กลุ่มคณะราษฎรที่ยังถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ ส่วนตัวได้ ขออนุญาตศาลให้แต่งตั้ง นายอานนท์ นำภา เป็นทนายว่าความส่วนตัว ให้เข้ามาดำเนินการว่าความในวันที่ 7 ก.พ. 2565 ซึ่งเป็นวันนัดพร้อม