ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิกวุฒิสภา ได้เผยแพร่บทความ ผ่าน Blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย ว่า มีรายงานข่าวล่าสุดว่า ได้มีการถอดรหัสพันธุกรรม พบไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ชื่อว่า B.1.1.529 และองค์การอนามัยโลกจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าติดตาม VUM : Variant Under Monitoring ซึ่งอยู่ในลำดับถัดจาก VOC : Variant of Concern และ VOI : Variant of Interest เหตุที่ไวรัสดังกล่าว สร้างความวิตกกังวลให้กับนักวิทยาศาสตร์คือ พบว่าไวรัสนี้มีการกลายพันธุ์ (Mutate) มากถึง 32 ตำแหน่ง และเป็นในส่วนหนามหรือเอสโปรตีน (Spike protein)ด้วย ซึ่งวัคซีนเกือบทุกตัว (ยกเว้นวัคซีนเชื้อตาย เช่น Sinovac และ Sinopharm) จะได้รับผลกระทบจากการที่ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่งหนาม การกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งหนาม จะส่งผลกระทบหลายประการ คือ 1) ความสามารถในการเข้าเซลล์ของไวรัส 2) การแพร่ระบาดของไวรัส 3) ระบบเซลล์ภูมิคุ้มกันที่จะโจมตีไวรัส ทำงานลำบากมากขึ้น
นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจึงกังวลเสมอ เวลาพบไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงส่วนหนาม และยิ่งถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นหลายตำแหน่ง เช่น ในกรณีนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากถึง 32 ตำแหน่ง ก็จะยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยง ที่รูปร่างหน้าตาของหนามจะเปลี่ยนแปลงไป จนทำให้วัคซีนจดจำไม่ได้ จึงอาจอาจละเลย หรือลดประสิทธิภาพในการต่อสู้กับไวรัสได้ ไวรัส B.1.1.529 ดังกล่าว ค้นพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศบอสวานา (Botswana) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 จำนวน 3 ราย และสามวันถัดมา ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 พบเพิ่มในแอฟริกาใต้อีก 6 ราย และที่สำคัญคือ ได้มีหนึ่งรายพบที่ฮ่องกง โดยในรายที่ฮ่องกงนี้ เป็นผู้ชายวัย 36 ปี ก่อนออกเดินทางไปแอฟริกาใต้ ผลตรวจเป็นลบ อยู่ที่แอฟริกาใต้ในช่วงวันที่ 22 ตุลาคมถึง 11 พฤศจิกายน 2564 และก่อนเดินทางกลับมาฮ่องกง ก็ตรวจว่าเป็นลบ โชคดีที่ทางฮ่องกง มีมาตรการกักตัวและในวันที่ 13 พฤศจิกายน ได้รับผลตรวจเป็นบวก
Dr.Tom Peacock นักไวรัสวิทยา จากอิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน กล่าวว่า การกลายพันธุ์มากตำแหน่ง ทำให้เปป็นที่น่าห่วงกังวลจริงๆ หวังว่าจะไม่รุนแรงมากนัก Professor R.Gupta ศาสตราจารย์ทางจุลชีววิทยาคลินิก จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์บอกว่า ใน 32 ตำแหน่งนั้น มีอย่างน้อย 2 ตำแหน่ง ส่งผลกระทบ ทำให้เพิ่มความสามารถในการติสดเชื้อของไวรัส และลดการจดจำของระบบภูมิคุ้มกันต่อไวรัสด้วย การกลายพันธุ์ของไวรัสมากมายหลายตำแหน่ง ในการพบครั้งเดียว น่าจะมาจากผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานบกพร่อง เช่น โรคเอดส์ ซึ่งทำให้เกิดมีการติดเชื้อเรื้อรังอยู่ในตนเอง องค์การอนามัยโลกจึงจัดให้อยู่ใน VUM ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไป
ข้อมูลดังกล่าว จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ที่จะต้องระมัดระวังเรื่องการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือคนไทยที่เดินทางมาจาก 3 ประเทศที่พบไวรัสดังกล่าวแล้ว คือ แอฟริกาใต้ ฮ่องกง และบอสวานา รวมทั้งควรระมัดระวัง เร่งเข้มงวดทำการตรวจสอบหรือกักตัวผู้ที่จะเดินทางเข้ามา ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ต่อกรณีดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่หลุดรอดเข้ามาได้ นอกจากนั้นแล้ว การฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตาย(SV,SP) ไขว้กับวัคซีนอื่น เช่น ไวรัสเป็นพาหะ (AZ) หรือเอ็มอาร์เอ็นเอ(PZ,MN) ก็จะมีประโยชน์มาก ทำให้ในร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถจดจำไวรัสทั้งตัวจากวัคซีนเชื้อตายและมีระบบภูมิคุ้มกันที่สูงต่อส่วนหนามของไวรัส เวลาไวรัสสร้างพันธุ์ใหม่ เกิดการเปลี่ยนแปลงของส่วนหนาม จะได้ยังพอมีระบบภูมิคุ้มกันที่จะจดจำไวรัสและเข้าต่อสู้ได้