นายกฯ สั่งจับตา โควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” เตรียมพร้อมยกระดับมาตรการ

นายกฯ สั่งจับตา โควิดสายพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน" พร้อมรายงานสถานการณ์ทันที หากต้องยกระดับมาตรการ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พี่น้องประชาชนที่รักครับ จากการตรวจพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ในทวีปแอฟริกา ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ตั้งชื่อว่า Omicron โดยนักวิทยาศาสตร์พบว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน และอาจจะแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าเดิมนั้น ผมขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามเรื่องนี้มาอย่างใกล้ชิด และได้รายงานผมตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรกับประเทศไทยบ้าง

ซึ่งเบื้องต้น ประเทศในทวีปแอฟริกาไม่ได้รวมอยู่ใน 63 ประเทศ/พื้นที่ ที่ไทยอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว และผมขอย้ำว่า ไทยยังไม่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้

โดยผมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งหน่วยงานคัดกรองที่จุดต่างๆ ให้จับตามองและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ และรายงานข้อมูลต่อผมในทันทีที่มีความคืบหน้า หรือมีข้อเสนอแนะด้านมาตรการต่างๆ ซึ่งหากมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีการปรับมาตรการ โดยเฉพาะการเดินทางเข้าออกประเทศ จากประเทศต่างๆ ที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ ผมก็จะสั่งการให้ดำเนินการโดยทันที โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนสูงสุด

ทั้งนี้ ผมขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่าน ยังคง ได้ใช้ความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต ลด-เลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อ แม้ว่าสถานการณ์เราจะดีขึ้นแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด ผมขอให้ท่านรีบไปฉีดทันทีเมื่อมีโอกาส หรือหากท่านที่ยังฉีดไม่ครบโดส ขอให้ท่านเข้ารับการฉีดในหลายๆ จุดที่เปิดให้บริการที่ท่านสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องเป็นจุดเดิมที่ท่านเคยฉีดมาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันตัวท่านและคนรอบข้าง

สำหรับการสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ ก็ถือว่าเป็นวัคซีนป้องกันเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้ทุกคนอย่าประมาท การ์ดไม่ตกนะครับ ส่วนผมและรัฐบาล จะทำทุกทางเพื่อปกป้องประเทศและประชาชนชาวไทยทุกคนอย่างดีที่สุดครับ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ธนกร” แนะรัฐบาลฉวยโอกาสอีเว้นท์ใหญ่ช่วงเปิด “สมรสเท่าเทียม” ดึงนทท.ทั่วโลก
"มาริษ" เผย ตปท.ชื่นชมไทย "สมรสเท่าเทียม" มีผลบังคับใช้แล้ว
"เศรษฐา" ยินดี 23 ม.ค. "สมรสเท่าเทียม" เกิดขึ้นจริงด้วยพลังของทุกคน 
“ไทด์” สุดสงสาร “แตงโม” ไม่ได้โดนแค่กรีดขา แต่โดนเจาะน่อง-มันทะลัก
"พิชัย" โชว์วิชั่นเวที WEF ดาวอส ประกาศศักยภาพไทย พร้อมเปลี่ยนสู่ยุคศก.ดิจิทัล โลก AI
งานเข้า! "ตำรวจไซเบอร์" ชี้ล่าเหรียญ "Jagat" ฟันผิดกฎหมาย พบ 3 บัญชีโอนเงินผู้เล่นจริง จ่อเรียกสอบ
ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานยังคลุมทั่ว กทม. พื้นที่สีแดง 14 เขต
บึ้มสนั่นกลางดึก ชาร์จรถ 3 ล้อไฟฟ้า เกิดไฟฟ้าลัดวงจรลามไหม้ร้านของชำ หวิดวอดทั้งหลัง
กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย เตือนภาคใต้มีฝนตกบางแห่ง
"กรมโยธาฯ" จับมือ "คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล" ลงนาม MOU ช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยการบริจาคโลหิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น