เมื่อวันที่ 27 พ.ย. รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 539,655 คน ตายเพิ่ม 5,891 คน รวมแล้วติดไปรวม 260,820,796 คน เสียชีวิตรวม 5,205,398 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุด ยังเป็นเช่นเดิมคือ เยอรมัน สหราชอาณาจักร รัสเซีย ฝรั่งเศส และสาธารณรัฐเช็ก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 94.97 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 91.85 ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึง 75.16% ของทั้งโลก พอๆ กับจำนวนเสียชีวิตเพิ่มที่คิดเป็น 66.74% เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
รศ.นพ.ธีระ ระบุต่อว่า สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 6,559 คน สูงเป็นอันดับ 20 ของโลก หากรวม ATK อีก 2,806 คน จะขยับเป็นอันดับ 18 ของโลก เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากตุรกีและเวียดนาม ทั้งนี้อัพเดตโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529…ดังนี้ 1.องค์การอนามัยโลกประกาศจัดให้ B.1.1.529 เป็นไวรัสกลายพันธุ์ที่อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล เป็นตัวที่ 5 ในขณะนี้ต่อจากอัลฟ่า เบต้า แกมม่า และเดลต้า 2.ตั้งชื่อว่า “Omicron” 3. โดยปกติแล้ว WHO จะจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ก็ต่อเมื่อมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งคือ มีความสามารถในการแพร่เชื้อได้มากขึ้นกว่าเดิมหรือมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่ามีความสามารถที่จะแพร่ระบาดอย่างมากได้ ติดเชื้อแล้วรุนแรงมากขึ้นหรือเปลี่ยนลักษณะอาการทางคลินิกไปจากเดิม หรือเป็นเชื้อที่มีหลักฐานยืนยันว่าทำให้ลดทอนประสิทธิภาพมาตรการด้านสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นด้านการตรวจวินิจฉัย การป้องกันด้วยวัคซีน หรือการรักษาก็ตาม B.1.1.529 หรือ Omicron นี้ถูกจัดเป็นกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล เพราะข้อมูลที่มีตอนนี้นั้นชัดเจนเรื่องทำให้เกิดการแพร่ระบาดมากได้
รศ.นพ.ธีระ ระบุต่อว่า 4. Omicron นี้ ได้รับการรายงานครั้งแรกในประเทศบอทสวานา เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2564 และพบในประเทศแอฟริกาใต้ในอีกไม่กี่วันถัดมา ต่อมาพบที่ประเทศฮ่องกง และเมื่อวันก่อนก็มีการรายงานว่าพบในอิสราเอลและเบลเยี่ยมด้วย การระบาดในแอฟริกาใต้นั้นมีการกระจายไปทั่วทุกจังหวัด และมีอัตราการตรวจพบที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าวิตก และคาดว่าว่าอาจมีการกระจายไปประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกาและทวีปอื่นๆ ทางองค์การอนามัยโลกจึงเตือนให้ประเทศต่างๆ เฝ้าระวัง และส่งรายงานการตรวจพบตามกลไกที่กำหนดไว้ 5.การตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ตรวจโควิด-19 นั้นยังสามารถตรวจได้ ดังนั้นศักยภาพของระบบการตรวจ RT-PCR ของแต่ละประเทศที่จะรองรับปริมาณการตรวจยามมีระบาดรุนแรงขึ้นจึงสำคัญมาก ไม่ใช่หันไปกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วหันไปใช้ ATK โดยไม่ได้เพิ่มศักยภาพระบบ RT-PCR 6. ข้อมูลจากศาสตราจารย์ Jeffrey Barrett ผู้อำนวยการโครงการ Covid-19 ชี้ให้เห็นว่า Omicron นี้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะหนามตรงเปลือกนอกของไวรัสมากถึง 32 ตำแหน่ง โดยหลายตำแหน่งมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดปัญหา เช่น สีแดง มีอยู่ถึง 9 แห่งที่มีลักษณะเหมือนกับไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ที่น่ากังวล เดิมที่เราเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นอัลฟ่า เบต้า แกมม่า และเดลต้า ตำแหน่งต่างๆ ดังกล่าวมีผลต่อการลดประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันจากวัคซีน การเพิ่มศักยภาพในการแพร่เชื้อและติดเชื้อ ฯลฯ ในขณะที่สีอื่นๆ นั้น จำเป็นต้องมีการวิจัยเพื่อดูผลของการเปลี่ยนแปลงต่อไป 7. คาดว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ จะมีผลการศึกษาเชิงลึกว่า Omicron จะส่งผลอย่างไรบ้างกับเรื่องประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน รวมถึงความสามารถในการแพร่เชื้อติดเชื้อ โอกาสการติดเชื้อซ้ำ และอื่นๆทั้งนี้ล่าสุดทางบริษัทวัคซีน เช่น โมเดิร์นน่า ก็ได้ออกมาประกาศว่ากำลังเร่งพัฒนาวัคซีนที่จำเพาะกับสายพันธุ์ Omicron นี้ด้วย
“ย้ำเตือนกันทุกวันว่า ไทยเราตอนนี้การระบาดยังสูงมาก และกระจายไปทั่ว ดังที่เห็นในอันดับโลกทุกวัน ฉีดวัคซีนจะช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรง ลดโอกาสเสียชีวิตได้ แต่ไม่ว่าจะฉีดแล้วหรือยังไม่ครบหรือยังไม่ฉีด ขอให้ตระหนักว่าจะมีโอกาสติดเชื้อได้หากไม่ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด และป่วยได้ตายได้ แพร่ให้คนใกล้ชิดในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือคนอื่นในสังคมได้
ใส่หน้ากากนะครับ สำคัญมาก เว้นระยะห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร สองเรื่องนี้จำเป็นต้องทำอย่างยิ่ง ทำอย่างเป็นกิจวัตร ทั้งประชาชนทั่วไป รวมถึงนายจ้าง ลูกจ้าง และลูกค้าทุกคน ไม่งั้นหากระบาดหนักขึ้นกว่านี้ ผลกระทบจะเกิดขึ้นหนักกว่าที่เป็นมา ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ด้วยรักและห่วงใย” รศ.นพ.ธีระ ระบุ