ศบค. เผยมาตรการสกัดโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน”เข้าไทย

ศบค. เผยมาตรการสกัดโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน"เข้าไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอนว่า ที่ประชุมอีโอซีกระทรวงสาธารณสุข ได้เรียกประชุมวาระฉุกเฉินเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาปรับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับมาตรการก่อนหน้านี้ของหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น บราซิล อิหร่าน และสิงคโปร์ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการรายงานด้วยความรุนแรง แต่องค์การอนามัยโลกได้ย้ำว่า ในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุ และมีโรคประจำตัวถือว่ามีความเสี่ยงที่น่าเป็นห่วง และเน้นย้ำว่าปัจจัยสำคัญในการเกิดเชื้อกลายพันธุ์มักจะเป็นประเทศที่มีประชากรที่ได้รับวัคซีนค่อนข้างต่ำ ทำให้ภูมิคุ้มกันน้อย ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงย้ำว่า หากไม่รีบรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรได้มากที่สุด เราอาจจะเป็นพื้นที่หนึ่ง ที่เกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อได้

สำหรับผู้เดินทางมาจากประเทศแถบแอฟริกาใต้ที่เข้าไทย ตัวเลขที่รายงานระหว่างวันที่ 1- 27 พฤศจิกายน 2564 สะสมอยู่ที่ 1,007 ราย ทั้งหมดนี้มีผลตรวจRT-PCR เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยเป็นลบ ส่วนการปรับมาตรการเข้าไทย ของทวีปแอฟริกาที่ประกาศเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน แบ่งกลุ่มประเทศแอฟริกาเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มประเทศที่มีรายงานเชื้อชัดเจนแล้ว ได้แก่ บอตสวานา เอสวาตินี เลโซโท มาลาวี โมซัมบิก นามิเบีย แอฟริกาใต้ และซิมบับเว หากประชาชนที่มีถิ่นพำนักจากประเทศเหล่านี้เกิน 21 วัน จะเดินทางเข้ามาไทยได้ในกรณีกักตัว และแซนด์บ็อกซ์ เท่านั้น และหลังวันที่ 27 พฤศจิกายนเป็นต้นมา มีประกาศชัดเจนว่าจะไม่อนุญาตจากประชาชนจาก 8 ประเทศเหล่านี้ลงทะเบียนเพื่อขอเข้าราชอาณาจักรไทย แต่จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่ลงทะเบียนมาก่อนล่วงหน้านี้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน และตรวจRT-PCR 3 ครั้ง นอกจากนี้มีการประกาศเพิ่มว่า 8 ประเทศนี้ หลังวันที่ 1 ธันวาคม ห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย ยกเว้นเฉพาะคนไทย

กลุ่มที่สอง คือผู้ที่เดินทางจากทวีปแอฟริกานอกเหนือจากประเทศที่มีรายงานพบเชื้อ 8 ประเทศ มีเงื่อนไขว่า เดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยแซนด์บอกซ์ และต้องกักตัวเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนขอเข้าราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ 27 พฤศจิกายนเป็นต้นไป หากลงทะเบียนมาก่อนหน้านี้แล้ว จะต้องกักตัว 14 วัน ตรวจ RT-PCR 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามในกรณีเดินทางมาถึงเมืองไทยก่อนหน้านี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานโรคติดต่อ เฝ้าระวังและติดตามอาการคนกลุ่มนี้ให้ครบ 14 วัน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เกือบ 200 ราย ซึ่งสามารถติดตามได้ทั้งหมด

ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ศบค.ชุดใหญ่ ได้ทบทวนการตรวจหาเชื้อโควิดกับนักท่องเที่ยว โดยวันที่ 16 ธันวาคม จะเปลี่ยนใช้การตรวจแบบ ATK แทนวิธี RT-PCR นั้น ขอให้ทุกคนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะคงการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ไว้จนถึง 16 ธันวาคม หรือจะเปลี่ยนเป็น ATK ตามมติศบค.ชุดใหญ่ เพราะอาจเปลี่ยนแปลงได้

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อรรถวิชช์-พงศ์พล-ฐิติภัสร์” พร้อมใจโพสต์ปกป้อง “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” หลังสื่อทำเนียบตั้งฉายา “พีระพัง” ลั่นพร้อมพังทุกรูปแบบการโกงกิน
"การรถไฟฯ" ออกแถลงการณ์ ยันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ "ที่ดินเขากระโดง" เดินหน้าทวงคืนตามกม. ไม่ใช่ละเมิดสิทธิปชช.
‘อี้ แทนคุณ’ พาเหยื่อร้องปคม. ถูกหลอกข้ามแดนลวงเปิดบัญชีม้า หลังพบมีหมาย 450 คดี
คืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 รถไฟฟ้าบีทีเอส - สายสีทอง ขยายเวลาให้บริการถึงตี 2
“เพื่อไทย” จัดเต็ม ชาวเชียงใหม่เรือนหมื่นแห่ฟัง “ทักษิณ” สว.ก๊องมั่นใจ พ่อใหญ่แม้วช่วยหาเสียงชนะแน่
ชาวบ้านทรุดก้มกราบ “ทักษิณ” ขอปรึกษาปัญหาชีวิต การ์ดรีบยกตัวออก
เกมแล้ว! หนุ่มแต่งรถประดับไฟสี ธีมคริสต์มาส ขับเฉิดฉายทั่วถนน ปรับฉ่ำๆ 2 ข้อหา
แจ้ง 4 ข้อหาหนัก 'อส.เมากร่าง' ยิงสนั่นกลางร้านข้าวต้ม ดับ 2 ศพ เปิดวงจรปิดอีกมุม เห็นวินาทีก่อเหตุชัด
ตร.ไซเบอร์ ขยายผลตามรวบ "ผู้จัดหาบัญชีม้า" แก๊งลวง "ชาล็อต" กว่า 4 ล้านบาท
“บิ๊กอ้วน”ซัดปาก! พวกกระหายสงคราม “บิ๊กปู” คอนเฟิร์ม “ว้าแดง” เรียบร้อยดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น