เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 64 ศาลอาญามีคำสั่งที่ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เเกนนำราษฎร จำเลยที่ 5 คดีหมายเลขดำ อ.287/2564 (คดีชุมนุมปักหมุดสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.63)
ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณาอ้างว่าจำเลยที่ 5 เป็นนักศึกษามีความจำเป็นจะต้องสอบเพื่อสำเร็จการศึกษาและจำเลยที่ 5 ยืนยันว่า จะไม่หลบหนีหรือก่อเหตุร้ายประการอื่นอีก
ศาลเรียกไต่สวนแล้วผู้ร้องนำสืบว่าจำเลยที่ 5 เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สาขาสังคมวิทยาและมนุษย์วิทยาชั้นปีที่ 4ซึ่งในภาคเรียนที่ 1 มีกำหนดการสอบปลายภาคระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-16 ธ.ค. ซึ่งจำเลยที่ 5 ลงทะเบียนเรียนและต้องสอบใน 4 วิชาทั้งนี้ผู้ช่วยศาตราจารย์ดร. บุญเลิศ วิเศษปรีชา อธิบายว่าในบางวิชาที่มีการรายงานแทนการสอบอาจมีการขยายระยะเวลาหลังกำหนดการสอบข้อเขียนไปอีกบ้าง แต่ในที่สุดแล้วต้องไม่เกินวันที่ 12 ม.ค.65 ซึ่งเป็นวันส่งคะแนนของบรรดาอาจารย์ผู้สอนต่อทางคณะ นอกจากนี้ในภาคเรียนที่ 2ของปี 4 จำเลยที่ 5 จะต้องทำการวิจัยส่วนบุคคลเพื่อจบการศึกษาซึ่งต้องใช้เวลาในการค้นคว้าและเก็บข้อมูลภาคสนาม 1 ภาคเรียนทั้งนี้การสอบของนักศึกษาวิชาสังคมวิทยาและมนุษย์วิทยานั้นจะต้องมีการเก็บข้อมูลและทำรายงานด้วยมิใช่การนั่งสอบข้อเขียน แต่เพียงอย่างเดียวจำเลยที่ 5 มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ศาลได้กำหนดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจำเลยที่ 5 จะไม่ทำกิจกรรมทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ร่วมการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองไม่ออกนอกราชอาณาจักรยินดีอยู่ในเคหสถานโดย จำกัด เวลาหรือตลอดเวลา ในบ้านเมือง ไม่ออกนอกราชอาณาจักร ยินดีอยู่ในเคหสถานโดย จำกัด เวลาหรือตลอดเวลาตามที่ศาลสั่งเว้นแต่การไปเล่าเรียนศึกษาทั้งจำเลยที่ 5 มีบิดามารดา และผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. บุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมจะกำกับดูแลให้จำเลยที่ 5 อยู่ในเงื่อนไขที่คาดกำหนด
โดยศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าศาลนี้มีคำสั่งให้ยกเลิกการปล่อยชั่วคราวและยังจำเลยที่ 5ไว้เนื่องจากเกรงว่าจำเลยที่ 5 จะก่อเหตุร้ายประการอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1(3 ) อย่างไรก็ดีการพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเป็นการใช้อำนาจของรัฐเพื่อ จำกัด สิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งศาลจะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากการก่อเหตุร้ายกับสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาโดยไม่ จำกัด สิทธิเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังนั้นการที่จำเลยที่ 5มีภาระในเรื่องการเรียนที่จะต้องเสียหายจากการคุมขังจึงเป็นเหตุที่สามารถได้รับการพิจารณาเมื่อคำนึงถึงความเสียหายที่จำเลยที่ 5 อาจก่อขึ้นอีกนั้นอาจ จำกัด ควบคุมได้โดยการที่จำเลยที่ 5 ยินยอมและตั้งใจปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ ของศาลที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและด้วยการกำหนดเงื่อนไขเงื่อนเวลาและมาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสมที่ประชุมผู้บริหารศาลอาญาพิจารณาแล้วจึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 5 อย่าง จำกัด โดยให้มีผลเฉพาะตั้งแต่วันนี้ 12 ม.ค.65 กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยที่ 5 ทำกิจกรรมหรือก่อเหตุที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามจำเลยที่ 5 เข้าร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ห้ามจำเลยที่ 5ออกนอกเคหสถานตลอดเวลา เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาล ไปเรียนและสอบ ไปติดต่อราชการที่ศาลอื่นหรือเหตุอื่น โดยได้รับอนุญาตจากศาลห้ามจำเลยที่ 5 ออกนอกราชอาณาจักรโดยให้ผู้ช่วยศาตราจารย์ดร. บุญเลิศ วิเศษปรีชาเป็นผู้กํากับดูแลให้จําเลยที่ 5 ปฏิบัติตามคําสั่งศาลให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์หากผิดสัญญาให้ปรับผู้ประกันเป็นเงิน 90,000บาทโดยไม่เรียกหลักประกัน
ด้าน นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่าวันนี้ ยังไม่สามารถปล่อยน.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง ออกมาได้เพราะติดหมายขังของศาลอาญากรุงเทพใต้ซึ่งพรุ่งนี้ตนจะไปยื่นเรื่องขอประกัน
อย่างก็ตามในส่วนของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำที่เป็นนักศึกษาและถูกคุมขังอยู่นั้น ทางทีมทนายกำลังเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการสอบเพื่อยื่นให้ศาลพิจารณาปล่อยชั่วคราวออกมาเช่นกัน
เงื่อนไข
1. ห้ามทำกิจกรรมที่ทำให้สถาบันเสื่อมเสีย
2. ไม่ร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย
3. ห้ามออกนอกเคหสถาน 24 ชม. ยกเว้นเดินทางไปสอบ, ไปสถานพยานบาล หรือไปตามนัดพิจารณาคดี
4. ห้ามเดินทางออกนอกปท.
5.ให้ติด em
โดยครั้งนี้ไม่เรียกหลักประกัน แต่หากผิดสัญญาประกันให้ปรับ 9 หมื่นบาท