วันที่ 1 ธ.ค. 64 ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยแล้ว โดยได้หมายเลข 73233 ภายหลังจากที่มีประกาศราชกิจจานุเษกษา วันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมาว่าพรรคประชาธรรมไทยถูกยุบพรรคเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าในฐานะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันมาก็อยากให้มาอยู่พรรคพลังประชารัฐด้วยกัน เพราะเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มต้น และเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ไปเจอพล.อ.ประวิตร อีกครั้งท่านก็บอกว่าเมื่อประกาศในราชกิจจาฯ เรียบร้อยแล้วก็ให้ไปดำเนินการสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐให้เรียบร้อย จนล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่พรรคพลังประชารัฐว่า ขณะนี้ความเป็นสมาชิกพรรคสมบูรณ์แล้ว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีข่าวว่ามีส.ส.ไหลออกนั้น นายพิเชษฐ กล่าวว่า ตรงนี้ต้องให้ความเป็นธรรม ตนในฐานะที่เป็นอดีตรัฐมนตรี และส.ส. มองว่าเรื่องคะแนน มีแต่ไหลเข้า อย่างน้อยที่สุดตนก็ให้เกียรติและถือว่านโยบายของพล.อ.ประวิตร ที่พูดกับลูกพรรคว่าจะดูแลกันอย่างพี่น้อง และไม่ให้เดือดร้อน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็อยู่ร่วมรัฐบาลกันมา 2 ปีกว่า วันนี้ตนจึงถือโอกาสเข้ามาช่วยสร้างภาพพจน์ว่าจากข่าวที่มีแต่การลาออก ที่ผ่านมาหลายคนก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่วันนี้ในส่วนของตนก็มายืนยันว่าไหลเข้า เพื่อเพิ่มสัดส่วนเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ อีก 1 คน ในส่วนเรื่องกระแสข่าวรอยร้าวของพรรคนั้นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่และหัวหน้าพรรค ซึ่งที่ผ่านมาตนก็เห็นว่ากรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีอะไร กลายเป็นว่าข่าวที่ออกมานั้นมาจากทางโซเชียลเท่านั้น
เมื่อถามว่า ตามปกติร่วมงานกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ อยู่แล้วใช่หรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะตนรู้จักหมด เนื่องจากตนเป็น ส.ส.มาตั้งแต่ปี 2539 และในแวดวงนักการเมืองด้วยกัน ก็รู้ๆ กันอยู่เพราะ ทั่วประเทศมีไม่เกิน 5,000คน ก็เข้าๆ ออกๆ วนเวียนกัน รู้จักกัน และรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทุกคนที่มาเล่นการเมืองก็ล้วนแต่ปรารถนาดีต่อประเทศชาติ เพื่อให้ประชาชน อยู่ดีกินดี และประเทศมีความเจริญ ส่วนใครจะอยู่พรรคไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่า จะมีพรรคเล็ก ทยอยมาที่พรรคพลังประชารัฐอีกหรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้การเลือกตั้ง มีบัตร 2 ใบ ก็ต้องเริ่มคิดแล้ว เพียงแต่รอเรื่องสัดส่วน หากออกมา1เปอร์เซนต์ หรือกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าเป็น 1เปอร์เซ็นต์ จะทำให้การคิดสัดส่วน ส.ส.1 คน ต่อประชากร 350,000 – 380,000 คน ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่าเหนื่อย และพรรคเล็กก็ต้องคุยกันว่าจะรวมพรรคกันหรือไม่ ถือเป็นขั้นตอนข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ามาของนายพิเชษฐ ส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐ มีส.ส.จำนวน 120 คน