นายกฯ ยัน ยังไงก็ไม่ปิดประเทศ เพราะประเทศไทยเฝ้าระวังเข้มอยู่แล้ว

นายกฯ ระบุ ชื่นชมหลายๆหน่วยงานที่รับนโยบายการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ไปแล้ว เร่งปฎิบัติทันที วอน ปชช. ไปฉีดวัคซีนให้ครบ ไม่ต้องกังวล มาตราการหลายอย่างต้องเลื่อนไปก่อน เพราะคำนึงถึงหลายฝ่าย ชี้ ปิดผับ บาร์ ต่ออีก 1 เดือน เตรียมพิจารณาเยียวยาผู้ประกอบการเข้าครม. ปัดตอบลงพื้นที่จ.อุดรธานี

วันที่ 2 ธ.ค. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศว่าสำหรับประเทศไทยนั้น ตนเป็นคนแจ้งเตือนเป็นคนแรก หลังทราบข่าวจากเว็บไซต์ต่างประเทศว่าพบการระบาด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชมเชยหน่วยงานในประเทศไทยที่รับนโยบายไปแล้วตอบสนองทันที  พร้อมขออภัยที่บางกรณีเคยประกาศว่าสามารถทำได้แต่ต้องหยุดไว้ก่อน ซึ่งในตอนนี้สิ่งที่ทุกคนต้องคำนึงถึงคือจะทำอย่างไรให้ตนเองได้รับความปลอดภัยมากที่สุด ตนเข้าใจดีถึงความเป็นอยู่ของประชาชนว่าทุกคนต้องการอิสระ ต้องการความสนุกสนาน และต้องการการเดินทาง แต่ขอให้ช่วยกัน เพราะไม่มีโรคใดที่จะต้านทานได้ถ้าเราไม่มีวินัย และอยากจะขอร้องให้ประชาชนทุกคนไปฉีดวัคซีนให้ครบ อย่ากังวลว่าเมื่อมีเชื้อไวรัสตัวใหม่เข้ามาแล้วจะไม่ฉีดวัคซีน โดยจะรอวัคซีนตัวใหม่เข้ามาแทน อย่าลืมว่าเชื้อเก่าก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม

ส่วนมาตรการที่เตรียมไว้จะมีการเลื่อนไปอีกหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาจต้องเลื่อนออกไปบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วย เพราะต้องคำนึงถึงหลายฝ่าย ส่วนหนึ่งก็เห็นใจเพราะภาคการท่องเที่ยวสำคัญที่สุด แต่หากไม่ทำแบบนี้ก็จะล้มเหลวทั้งหมด และคนจะมองว่ารัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ

ส่วนที่เลื่อนไประบุชัดเจนหรือไม่ว่าเป็น ผับ บาร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นกลุ่มผับบาร์ ซึ่งขอรอดูประมาณ 1 เดือน แต่ก็จะต้องปรึกษากระทรวงสาธารณสุข และที่ผ่านมาตนได้รับฟังความเดือดร้อนจากผู้ประกอบการหลายคน จึงสั่งการให้มีการพิจารณาเยียวยาผู้ประกอบการชั่วคราวไปก่อน ซึ่งอะไรที่เปิดได้ก็มีอยู่แล้ว ส่วนสถานที่ปิด หรือสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก หรือเสี่ยงก็ขอปิดไว้ก่อนสักระยะ และจะเร่งนำเรื่องการเยียวยาเข้าครม.

ส่วนกรณีคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศจะต้องมีการติดตามข้อมูลเพื่อเฝ้าระวังหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการติดตามอยู่เรื่อยๆ และคนในพื้นที่ต้องช่วยกัน

ส่วนกรณีในประเทศเกาหลีใต้ และสิงคโปร์ มีการพบเชื้อกลายพันธุ์ จะมีการใช้ยาแรงปิดประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ใช้หรอก เพราะมีขั้นตอนการป้องกันอยู่แล้ว โดยใช้ RT-PCRตรวจหาเชื้อและมีการกักตัว รวมทั้งยกเลิกการตรวจแบบ ATK แล้ว ซึ่งอาจลำบากขึ้น แต่ก็ต้องมองทั้งสองทาง ทั้งด้านเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและความปลอดภัย ไม่สามารถทำให้ง่ายไปทั้งหมดได้ ตอนนี้จะต้องให้ความสำคัญกับ covid free setting ต้องช่วยกันดูแล ไม่อย่างนั้นก็เอาความเดือดร้อนมาพูดกันอย่างเดียว มันก็จะเกิดการไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ทำให้เดินหน้าไปได้

สำหรับการประชุม ศบค. ในวันพรุ่งนี้จะมีการทบทวนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงปลายปีหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสิ่งที่คาดหวังคือการรักษาเศรษฐกิจเดิมให้ได้มากที่สุด และเร่งสร้างเศรษฐกิจใหม่ เพื่อพลิกโฉมประเทศไปข้างหน้า ในโลกยุคนิวนอมอล โดยจะต้องไปดูการส่งเสริมการลงทุนมากยิ่งขึ้น รูปแบบกระบวนการทางกฎหมาย รูปแบบสิทธิประโยชน์ของBOI และโครงสร้างภาษีของกระทรวงต่างๆ เพื่อสร้างความจูงใจในการลงทุนในประเทศ รวมถึงธุรกิจข้ามชาติ โดยชาวต่างชาติที่จะมาลงทุนในประเทศไทย จะต้องมีศักยภาพสูง เพื่อทำทุกอย่างให้เร็วยิ่งขึ้น พร้อมยืนยันว่า จะไม่ให้มีผลต่อประชาชน หรือประเทศไทยเด็ดขาด เพราะบางครั้งการสร้างความเข้มแข็งก็เหมือนการเอาไม้ไผ่หลายๆแท่งมารวมกัน ทำให้หักยาก แต่ถ้าเป็นเพียงแท่งเดียวก็จะหักง่าย เพื่อสร้างจีดีพีในประเทศให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราเจริญเติบโตไม่พอ ถ้าเราไม่ปรับเปลี่ยนต่อไปเราจะอยู่ลำบาก และงบประมาณก็จำกัด วันนี้มีการเจรจากับต่างประเทศหลายบริษัทมีความสนใจลงทุนในประเทศไทย เราต้องพัฒนาทั้งหมด ทั้งด้านการเกษตร การลงทุน อุตสาหกรรม แต่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ ทุกบริษัทในโลกกำลังแสวงหาสถานที่ประกอบการที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีเรื่องสิทธิมนุษยชนในการประกอบธุรกิจ ถ้าเราไม่ทำอาจช้าเกินไปยังไงก็ต้องช่วยกัน

นอกจากนี้รัฐบาลใช้เวลาหลายปีในการแก้ปัญหาพื้นฐานพาประเทศไปสู่ยูค 4.0 ให้ทันสมัยทันเทคโนโลยี ดังนั้นต้องช่วยกัน และจับมือกันไปข้างหน้า

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานีเมื่อวาน(1ธ.ค.) นายกรัฐมนตรียกมือขึ้นห้ามพูด และเดินไปทันที

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ต้าหลี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางระยะยาว
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) “ดวงอาทิตย์เทียม” ของจีนใกล้ผลิตพลังงานสะอาดไร้ขีดจำกัด
รวบแล้ว คนร้ายทุบหัวแม่ค้าหมูปิ้ง ชิงเงิน 5 พันบาท สารภาพหมดเปลือก
"อุตุฯ" เตือน 39 จังหวัด รับมือฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง กทม.ก็โดนด้วย
อาลัยตลกดัง “อาฉี เสียงหล่อ” เจ้าของวลี “บัดซบจริงๆ เลย” เสียชีวิตแล้ว
"พาณิชย์" แนะผู้ส่งออกลุยตลาดข้าวคุณภาพสูง ตอบโจทย์ตลาดพรีเมียม หนีแข่งขันด้านราคา
"พาณิชย์" แนะไทยลุยตลาดผู้สูงอายุไต้หวัน ชี้เป้าขายอาหาร บริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
"พาณิชย์" ปลื้ม! ร้านอาหาร Thai SELECT สุดฮอต ผู้บริโภคพูดกันหนาหู แถมหาทางไปชิม
"รมว.สุดาวรรณ" ชวนเที่ยวงานใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน
"2 ตายายขายผัก" ตลาดนัดเสาสูง ดวงเฮง ถูกรางวัลที่ 1 รับเละ 12 ล้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น