วันที่ 5 ธันวาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ออกมาพาดพิงตนเองไปกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เรื่องความจงรักภักดี โดยระบุว่าตนเองพูดไปตามที่เห็น เพราะก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ออกมาประกาศจะผลักดันแก้ไขมาตรา 112 อีกทั้งมักออกมาพูดสนับสนุนการเคลื่อนไหวของม็อบ 3 นิ้วอยู่ตลอดเวลา แต่พอมองว่ากระแสสังคมไม่เอาด้วยก็กลับลำบอกว่ามาตรา 112 ดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ไม่ใช่แค่ตนเองที่มองว่านายทักษิณ เป็นท่อน้ำเลี้ยง แต่ตนเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็คิดเช่นเดียวกัน
ส่วนที่นายยุทธพงศ์ ขอให้ตนนึกถึงบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนของนายทักษิณ และของพรรคเพราะเมื่อก่อนเคยมาอาศัยอยู่ในพรรคไทยรักไทยนั้น นายเสกสกลย้ำว่าที่ต้องออกจากพรรคไทยรักไทย เพราะทนอยู่กับพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์จะทำเพื่อนายใหญ่ และครอบครัวนายใหญ่เท่านั้น จนลืมความเดือดร้อนของประชาชน
ซึ่งตนเองจะไม่ยอมเป็นคนรับใช้นายทักษิณอย่างแน่นอน ที่วันๆคอยแต่สั่งการให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย หาวิธีให้ตนเองและน้องสาวได้กลับประเทศ ทั้งที่ทำผิดกฎหมายหนีออกจากประเทศ
“อย่าว่าแต่ตนเองที่ออกจากพรรคนี้ เชื่อว่ายังมี สมาชิกพรรคอีกหลายคนที่คิดเช่นเดียวกันกับตนเอง และอยากจะย้ายไปอยู่พรรคอื่นเช่นเดียวกันเพราะทนกับพฤติกรรมของแกนนำพรรค และนายทักษิณ นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ไหว
ทั้งนี้หากนายยุทธพงศ์ รักที่จะอยู่กับพรรคการเมืองที่มีนายใหญ่เช่นนี้ก็ไม่ต้องออกมากล่าวโจมตีคนอื่นที่เขาไม่อยากอยู่ จะรับใช้กันเพื่อทดแทนที่ชาตินี้ได้เป็นรมช.ข้ามหัวแกนนำคนอื่นในพรรคเพื่อไทย อย่างนั้นใช่ไหม จะตอบแทนบุญคุณกันชดใช้หนี้กันก็ตามใจ แต่ประชาชนเขารู้ทัน คนในพรรคเพื่อไทยเขาก็เกลียดขี้หน้า บ่นมากลับตนมากมายหลายคน
” ตนได้ไปเปิดดูในเวปไซด์ https://www.ryt9.com/s/ryt9/147758 เมื่อ 11 สิงหาคม 2547 ที่นายยุทธพงศ์แถลงยืนยันจะไม่ย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์
คงลืมบุญคุณจากพรรคประชาธิปัตย์แล้วใช่ไหมจึงย้ายเข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทย ได้นึกถึงข้าวแดงแกงร้อนของพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ด้วยหรือไหมที่ทำให้ได้เป็นส.ส.มหาสารคาม
อย่ากล่าวหาแต่คนอื่น ตัวเองย้ายมาเพื่อไทยเพื่อแลกกับตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ข้ามหัวคนในพรรคเพื่อไทย จึงต้องตอบแทนคุณ นายใหญ่ ก็เป็นเรื่องของนายยุทธพงศ์ แต่อย่ามาพาลตน ก็เตือนเอาไว้ อย่ามาเป็นคนอันธพาลมาแขวะตน ตนก็ไม่ยอมเหมือนกัน”