วันที่ 6 ธ.ค. นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า ไม่ขอเห็นด้วยกับอาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ข้อเสนอของอาจารย์ปิยบุตร เราไม่จำเป็นจะต้องเห็นด้วยหรือมีพลังอำนาจอะไรจะมาต่อรองเจรจาประนีประนอม 1. เพราะมันเลยเวลาที่จะทำการเจรจาประนีประนอมไปแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมเดินเข้าสู่ขบวนการยุติธรรม มีคดีอาญาติดตัวเป็นจำนวนมาก 2.เพราะอาจารย์ปิยบุตรรู้ว่าเกมส์นี้ฝ่ายตนพ่ายแพ้ แต่ถ้าเป็นฝ่ายชนะคงไม่มีความประนีประนอม ดังเห็นได้จากการโพสต์รัวๆ ของเขาที่ปารีส 3.การปฏิเสธว่าตนเองต้องการปฏิวัติล้มล้างมากกว่าการปฏิรูป เกิดขึ้นหลังจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และแนวทางของการปฏิวัติตามความเข้าใจของผู้ชุมนุม มันถูกเริ่มต้นแล้ว เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2563
นายเทพมนตรีกล่าวอีกว่า 4. เพราะอาจารย์ปิยบุตรรักตัวกลัวตาย กลัวขบวนการที่จัดตั้งขึ้นมาพังทลายลงจึงออกมาอธิบายต่อรองเพื่อเดิมเกมส์ต่อ หากแต่คนไทยเขาฉลาดไม่ใช่พวกโง่แบบสองเขาสามกีบที่เคลิบเคลิ้มจนหลงลืมความถูกต้อง 5. ข้อเสนอเป็นเรื่องของตัวบุคคลไม่ใช่ของปวงชนชาวไทย 6. อาจารย์ปิยบุตรตกอยู่ในสภาพหมดเครดิต คือถูกศาลฯ เพิกถอนสิทธิการรับสมัครทางการเมือง พรรคที่ตนเองเป็นเลขาธิการถูกยุบ และมีแนวโน้มสูงที่จะต้องคดีอาญาหลายมาตรา 7. ข้อเสนอสามารถกระทำผ่านขบวนการรัฐสภา โดยพรรคก้าวไกลแต่ไม่ทำ เพราะต้องการจะนำเสนอผ่านสังคมโซเชียลสร้างความปั่นป่วน และความขัดแย้ง ถือเป็นบุคคลอันตราย
นายเทพมนตรีกล่าวต่อว่า 8. การอ้างเสรีภาพทางวิชาการของอาจารย์ปิยบุตรมักละเมิดสิทธิเสรีภาพของพระมหากษัตริย์ซึ่งผิดบทบัญัติตามมาตรา 3-4 ในรัฐธรรมนูญ และอาจลุกลามไปถึงมาตรา 108 หมวดความมั่นคง ในประมวลกฎหมายอาญา 9. ข้อเสนอของอาจารย์ปิยบุตรจึงไม่มีคุณค่าอะไรในทางวิชาการเพราะไม่ผ่านการลงประชามติจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไทย มีลักษณะของการต่อลอง ข่มขู่ ปราศจากความชอบธรรมทั้งทางนิตินัยและในทางที่จะนำไปปฏิบัติ 10. เราควรเลิกเชื่ออาจารย์ปิยบุตรได้แล้ว เพราะเป็นการเสียเวลาและรกสมองไปเปล่าๆ