หลังจากประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศ ซึ่งเป็นนักธุรกิจสัญชาติอเมริกัน ที่เดินทางมาจากสเปน มาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ แบ่งออกเป็นดังนี้
1.มาตรการใช้กับ 8 ประเทศเสี่ยงทวีปแอฟริกาที่พบการระบาดของโอมิครอน
-ห้ามชาวต่างชาติจาก 8 ประเทศทวีปแอฟริกาเข้าไทยในรูปแบบเทสต์แอนด์โก
-ไม่ให้ลงทะเบียนเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน
-ตั้งแต่ 1 ธันวาคม ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติจาก 8 ประเทศเสี่ยงทวีปแอฟริกาเข้าไทย ยกเว้นผู้มีสัญชาติไทย
-ผู้ที่เข้าไทยตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน รูปแบบแซนด์บ็อกซ์ ให้คุมไว้สังเกตอาการ 14 วัน และตรวจหาเชื้อ ,รูปแบบกักตัว ให้กักตัวในสถานกักกันจนครบ 14 วัน กรณีออกจากสถานกักกันแล้ว แต่ยังไม่ครบ 14 วัน ให้คุมไว้สังเกตจนครบ 14 วัน และตรวจหาเชื้อ
-ผู้ที่เดินทางถึงไทยตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน ในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์และกักตัว ต้องกักตัว 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง
2.มาตรการสำหรับประเทศอื่นๆในทวีปแอฟริกา
-ผู้เดินทางมาตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน- 5 ธันวาคม รูปแบบแซนด์บ็อกซ์ คุมไว้สังเกตจนครบ 14 วัน มีอาการให้ตรวจหาเชื้อ รูปแบบกักตัว เมื่อกักตัวครบ ต้องติดตามคุมไว้สังเกตจนครบ 14 วัน หากมีอาการให้ตรวจหาเชื้อ
-ผู้ที่เดินทางมาไทยตั้งแต่ 6 ธันวาคม ในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์และการกักตัว ให้กักตัวเป็นเวลา 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง
3.มาตรการสำหรับประเทศอื่นๆ ที่ทางการไทยอนุญาตให้เข้าประเทศ
-รูปแบบเทสต์แอนด์โก มาจากประเทศที่กำหนด มีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่มากับผู้ปกครอง ,มีผลตรวจRT-PCR ภายใน72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ,ถึงไทยให้ตรวจRT-PCR อีกครั้ง และเข้าพักในโรงแรมที่จองไว้ 1 วัน เพื่อรอผลตรวจ ฯลฯ
-รูปแบบแซนด์บ็อกซ์ทางอากาศ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว มาจากประเทศใดก็ได้ มีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีที่มากับผู้ปกครอง ,อยู่ในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ 7 วัน , มีผลตรวจRT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ฯลฯ
-รูปแบบสถานกักกัน มาจากประเทศใดก็ได้ ต้องมีผลตรวจ RT-PCR ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง,กักตัวในสถานกักกัน หากฉีดวัคซีนครบ ให้กักตัว 7 วัน หากไม่ได้ฉีดวัคซีน ผู้ที่เข้ามาทางอากาศ และทางน้ำกักตัว 10 วัน ส่วนทางบก กักตัว 14 วัน และต้องตรวจหาเชื้อด้วยRT-PCR อีก 2 ครั้ง ระหว่างอยู่ในสถานกักกัน
มาตรการคุมเข้มชายแดนใต้ จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล
1.ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน บังคับใช้มาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
2.เพิ่มความเข้มข้นสกัดการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ หากพบให้ดำเนินคดีเด็ดขาด ทั้งผู้นำพาและผู้ให้ที่พักพิง
3.ตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างเข้มข้น เน้นพื้นที่ชุมชน และสถานที่เสี่ยง
4.ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเปราะบาง
5.เร่งฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 และประชาชนทั่วไป กำหนดจุดฉีดวัคซีนทั้งรูปแบบ On – Site และ Mobile unit พร้อมทำความเข้าใจผู้ที่ไม่ประสงค์ฉีดวัคซีนด้วย