วันที่ 6 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.หนองยายพิมพ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และอยากให้ผู้สื่อข่าวมาร่วมพิสูจน์ ว่าเศษวัสดุที่อยู่ในขวดน้ำปลาแบบพลาสติก จะเป็นชิ้นส่วนของอะไร และจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง พบนาง ฐานิตา เทียนวรรณ อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 8 ต.หนองยายพิม .อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เจ้าของขวดน้ำปลารออยู่ที่บ้าน โดยมีนาย จักรพัฒน์ ชูประทีป อายุ 70 ข้านเลขที่ 26/1 หมู่ 8 ต.หนองยายพิมพ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ อดีตกำนัน ต.หนองยายพิมพ์ ซึ่งได้มารอร่วมพิสูจน์ดังกล่าว ด้วย
เบื้องต้นพบเป็นน้ำปลายี่ห้อหนึ่งแบบขวดพลาสติก ความจุ 700 มล.ฝาจุกด้านบนไม่มีร่องรอยการงัดแงะ ภายในขวดพบเศษวัสดุสีใส คล้ายเศษแก้ว หนาประมาณ 1 ซม.ยาวประมาณ 2 ซม.เมื่อเขย่าดูได้ยินเสียงเหมือนของแข็ง จากนั้นได้ร่วมกันใช้มีดมาผ่าขวดน้ำปลาพิสูจน์ พบว่าเป็นเศษแก้วจริง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นางฐานิดา เจ้าของน้ำปลา เล่าว่า ปกติจะไม่เลือกยี่ห้อน้ำปลา กินแบบไหนก็ได้ พอช่วงหลังได้เงินสวัสดิการแห่งรัฐมา ก็อยากกินของดีๆเหมือนกับคนอื่นบ้าง จึงได้ไปซื้อน้ำปลายี่ห้อดังกล่าวมา จากร้านที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และยอมรับว่าน้ำปลามีรสชาติดี กินไปยิ้มไปได้กินของดีแต่ละมื้ออาหาร หลังจากปริมาณน้ำปลาในขวดเริ่มลดลงได้ประมาณครึ่งขวด จะได้ยินเสียง”กริ๊กกรอก”ระหว่างที่ถือขวดน้ำปลามาเติมชามกับข้าว จะได้ยินเสียงดังทุกครั้ง แต่ไม่ได้เอะใจ ใช้น้ำปลาขวดนี้ต่อไป จนสุดท้ายน้ำปลาเหลือ 1 ใน 4 ของขวด เริ่มยกขวดน้ำปลาขึ้นมาดูเพราะเสียงดังผิดสังเกต กระทั่งพบว่ามีเศษวัสดุอะไรบางอย่าง จึงโทรเรียกให้อดีตกำนัน แจ้งให้นักข่าวมาร่วมพิสูจน์
โดยนายจักรพัฒน์ ชูประทีป อดีตกำนันกล่าวว่า จากฉลากที่ปรากฏบนขวด น้ำปลายี่ห้อนี้ มีตรารับรองจากหลายหน่วยงาน ถือเป็นบริษัทใหญ่ ยอดขายสูง แต่กลับมาพบสิ่งแปลกปลอมแบบนี้อยู่ในขวด จริงแล้วอาหารถ้ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปผสมอยู่ ถือว่าอาหารไม่สะอาด กรณีนี้อยากจะให้บริษัทน้ำปลายี่ห้อนี้มาชี้แจง และอยากรู้ว่าจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพของผู้บริโภคหรือไม่ ยืนยันไม่ได้จงใจกลั่นแกล้งบริษัท ที่ร้องสื่อเพราะอยากให้ประชาชนรับทราบและพึงระวังว่าสินค้าชนิดใดก็ตาม ก่อนบริโภคควรสังเกตให้ดี โดยหลังจากนี้จะไปร้อง ศคบ.เพื่อให้นำไปพิสูจน์ต่อว่าเป็นวัสดุอะไรกันแน่.
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผุ้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์