เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2564 เรวดี ศรีท้าว วัฒนสิน อดีตนักวิ่งทีมชาติไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก เขียนบรรยายถ่ายทอดความประทับใจหลังจากได้ร่วมเฝ้าฯรับเสด็จในหลวงและพระราชินี ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยระบุใจความไว้ว่า สำหรับพี่วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีคือวันแห่งความรักค่ะ
สำหรับตัวพี่มีความตั้งใจที่จะไปรับเสด็จพระเจ้าอยู่หัวใน การประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่โครงการอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
บรรยากาศเริ่มต้นการเดินทางของพี่ ด้วยการไปกราบสักการะพระแก้วมรกตสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และเข้ากราบสักการะปราสาทพระเทพบิดรเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตและขอพระบารมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปกปักรักษาองค์พระมหากษัตริย์และพระราชินี พระพันปีหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกๆพระองค์ ให้ทรงมีพระวรกายที่แข็งแรงปราศจากโรคภัยเบียดเบียน ปกปักรักษาประเทศชาติบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข ให้คนดีมีมากกว่าคนไม่ดี
ช่วงที่พี่รอเวลาเข้าไปกราบพี่พบเจอแต่มิตรภาพที่ดีด่านแรกเจ้าหน้าที่คัดกรองจุดแรกน่ารักมากมายอธิบายบอกรายละเอียดการเข้ากราบไหว้สักการะแจ้งเรื่องการแต่งกาย แจ้งรายละเอียดการรับเสด็จเวลาในการเข้ากราบสักการะได้โดยไม่แสดงถึงความเหนื่อยหน่าย น้ำเสียงที่พูดมีแต่ความสุขต่องานที่ได้รับมอบหมาย
เมื่อกราบสักการะเสร็จ พี่พบเจอกัลยาณมิตรที่น่ารักมีแต่ความเอื้อเฟื้อ อาสาช่วยถ่ายภาพให้กันทักทายกันด้วยรอยยิ้ม ที่ประทับใจได้เจอครอบครัวที่พาคุณแม่ที่สุขภาพดูจะไม่ค่อยแข็งแรงมาจากสิงห์บุรีพอเห็นพี่คุณแม่ดีใจมากขอกอดเสียงสั่นว่าดีใจเป็นFCพี่ ชื่นชมชื่นชอบพี่ พี่ประทับใจที่ลูกๆดูแลเอาใจใส่แม่วันที่5ถือเป็นวันพิเศษพาแม่ มากราบพระแก้วมรกตและปราสาทเทพอุดร และมาจากสิงห์บุรี ได้พบเจอชาวปากช่องที่พาหลานออกมากันตั้งแต่ตี2ตี3หลานตัวเล็กพอสัก7โมงกว่าเริ่มง่วง สำหรับพี่มันคือบรรยากาศของความรัก จากพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย สู่ ลูกหลาน ไม่ให้เรียกความรักไม่รู้จะเรียกอะไร
เมื่อออกจากวัดพระแก้วอาศัยตุ๊กๆไปที่กองบัญชาการกองทัพภาค1เพื่อไปสมทบและขออาศัยทีมน้องๆจากเพจภาคีประชาชน ที่นำข้าวปลา อาหาร น้ำส้มที่อร่อยมาก คุกกี้ ไปแจกให้กับประชาชนที่จุดพักคอย เพื่อรอเวลานั่งรถไปรับเสด็จที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ขอบคุณน้องๆจากเพจภาคีประชาชนทุกท่านที่กรุณาให้เกียรติพี่และคอยดูแลถามไถ่เรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี
เมื่อได้เวลาขึ้นรถไปที่จุดคัดกรองสุดท้ายโรงเรียนราชวินิต มัธยม มีเจ้าหน้าที่มากมายคอยดูแลให้ความสะดวกกับประชาชนด้วยน้ำเสียงที่ใส่ใจดูแล พี่ไม่ได้ยินน้ำเสียงที่หงุดหงิดหรือรำคาญใดๆเลยทั้งๆที่ผู้คนมากมายแต่ละคนมาจากต่างที่ ต่างถิ่นบางคนเป็นผู้สูงวัยที่มีคำถามมากมาย
ถึงตรงนี้พี่ได้มีโอกาสคล้องแขนน้องอาคมผู้พิการทางสายตาที่เดินทางมากับพี่ๆทีมงานเพจภาคีฯ เราเดินจูงมือกันโดยมีพี่ๆห้อมล้อม พี่จึงเห็นแต่ความรักความเอื้ออาทร เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในบรรยากาศ มีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มันคือความสุขจริงๆ
เมื่อได้เข้าไปยังบริเวณอุทยานฯถึงแม้จะมีคนเยอะแยะมากมายสิ่งที่เห็นคือเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานได้อย่างดีคอยบอกว่ามีอาหารพระราชทานมากมาย มีรถห้องน้ำอยู่ให้ความสะดวกและเดินคอยดูแลพูดคุยให้ความสะดวก มีอาสาพยายาล มีจิตอาสาพระราชทานทำงานกันอย่างเป็นระบบ บรรยากาศอบอุ่นมีแต่ความรักล้อมรอบตัวพี่ พี่พยายามนั่งอยู่กับที่ไม่ทำตัวเป็นภาระใครเมื่อใกล้เวลาก็ไปห้องน้ำ ระหว่างทางพบเจอมิตรภาพผู้คนให้กำลังใจชื่นชม ขอบคุณในสิ่งที่พี่ได้ทำและกำลังอยู่ในช่วงทัวร์ลง ขอบคุณค่ะ
เมื่อได้เวลาเจ้าหน้าที่จัดให้เราเดินเป็นแถวขึ้นไปบริเวณพิธี ที่มีคนนั่งอยู่เต็มหมดเราได้ที่ๆไกลและไม่น่าจะเห็นพระองค์ท่านชัด ทีมงานเพจภาคีฯ จึงมองหาที่ใหม่ และได้ย้ายไปนั่งเก้าอี้บริเวณหน้าปะรำพิธีและใกล้บริเวณที่จะทรงดำเนินไปปลูกต้นไม้ ซึ่งก็ไม่ใช่แถวแรกๆยังคงไกลแต่ก็ยังคงเห็นพระองค์ท่านชัดเจนกว่า
มิตรภาพและความรัก เมื่อเราย้ายที่ครั้งแรกมานั่งพับเพียบที่หญ้าเทียม มีร่มสีเหลืองวางไว้ตามบริเวณที่นั่งมีทั้งร่มคันใหญ่และคันเล็ก พี่ได้พบกัลยาณมิตรที่มาจากเชียงใหม่ ศรีษะเกษ เรานั่งคุยกันด้วยความสนุกสนานหัวเราะขบขันพูดคุยแซวกันพี่นั่งฟังเรื่องราวเพื่อนที่เพิ่งพบเจอกันครั้งแรกแต่พูดคุยเหมือนรู้จักกันมายาวนาน น่าเสียดายไม่ทันได้ถามชื่อพี่ย้ายไปนั่งที่ใหม่เสียก่อน
เมื่อย้ายมานั่งเก้าอี้ที่สบายขึ้นสำหรับพี่ที่มีปัญหาเข่า เสียงโทรศัพท์พี่ดังขึ้น จากพี่เจี๊ยบรุ่นพี่ที่จบมศว.เรามักจะมาเจอกันในที่ๆมีความรักมากมายเสมอ พี่ย้ายมานั่งกับพี่เจี๊ยบที่ลุยมาคนเดียวอย่างคนที่มุ่งมั่นตั้งใจจะแสดงพลังของความรักต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สำคัญได้เจอเพื่อนอดีตนักฟุตบอลทีมชาติลูกครึ่งอเมริกันนิโกรเหมือนพี่และภรรยาที่อบรมเป็นจิตอาสา904
สิ่งที่พี่เห็นจึงมีแต่ความรัก ความรักที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์ท่าน
ท่านใส่ใจดูแลให้มีอาหารที่มากมายเพียงพอไม่ให้มีใครต้องอด ท่านใส่ใจไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกท่านเตรียมเสื้อกันฝน ท่านเตรียมร่มให้ประชาชนของพระองค์ไม่ต้องเปียกฝน ทนหนาว ทนร้อนด้วยแดดที่แรงจ้า ท่านทรงเป็นความอิ่ม ท่านทรงเป็นความอบอุ่น ท่านทรงเป็นร่มเงาให้คนไทยทุกคน ท่านทรงทอดสายพระเนตรมองไปที่พสกนิกรทุกคนที่อยู่ไกลแค่ไหนท่าน ทรงมองเห็น
พี่ถึงแม้จะนั่งอยู่ไกลแต่พี่ก็เชื่อว่าท่านทรงเห็นว่าพี่เป็นจุดหนึ่งที่จงรักภักดีต่อพระองค์ท่านและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกๆพระองค์
ของที่ระลึก พี่เห็นความรักที่ทุกๆคนมี เมื่อไปรับอาหารพระราชทานมาบางคนกินอิ่มแล้วก็ขอนำกล่องที่ประทับตราว่าเป็นอาหารพระราชทานกลับบ้าน บางคนเก็บทุกอย่างเพื่อนำกลับไปเป็นที่ระลึก แม้แต่ร่มสีเหลืองเมื่อมีการประกาศว่าให้นำกลับบ้านได้ก็มีเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี หลังเสร็จพิธี มีการประกาศว่าให้เข้าแถวรับเครื่องบวงสรวงไปกินหรือนำกลับไปบูชาแถวแทบแตกเวทีแทบพังทีแรกพี้เจี๊ยบชวนพี่ไปเอาพี่บอกอย่าเลย คนคงจะเยอะและเป็นเช่นนั้นพี่เอามาเพียงเจลพระราชทานเพราะพี่คิดว่านี่คือสิ่งที่คนจะเอาไปน้อยที่สุด
#สำหรับพี่วันที่ 5 ธันวาคมจึงเป็นวันแห่งความรักค่ะ