วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ประมาทไม่ได้ กับ โอมิครอนถึงแม้ว่าโอมิครอน จะดูไม่รุนแรงแม้จะแพร่ได้เร็วกว่าเดลต้าสองถึงห้าเท่าจากขัอมูลระยะแรก แต่ต้องจับตามองว่าภูมิที่เคยมีจากการติดเชื้อมาก่อน หรือภูมิที่เกิดขึ้นจากวัคซีนจะช่วยป้องกันมนุษย์จากโอมิครอนได้ดี แค่ไหน อย่างไร
ศักยภาพอันเต็มเปี่ยมของวายร้ายโควิด ที่หลอกล่อกระบวนการป้องกันของมนุษย์ไปเข้าพวกและแทนที่จะปกป้องรักษาชีวิตมนุษย์ กลับกระพือความรุนแรง ติดเชื้อง่ายขึ้น กระจายเชื้อเก่งขึ้น ยาวนานขึ้น
ทั้งนี้ที่เรียกว่าภูมิตอบสนองไม่ว่าจะเป็นต่อการติดเชื้อตามธรรมชาติหรือตอบสนองต่อวัคซีนไม่ใช่จะเป็นตัวดีเพียบพร้อมเสมอไป แต่กลับกลายเป็นตัวไม่ได้เรื่องจนกระทั่งถึงเป็นตัวเลวชั่วร้ายในระดับต่างๆ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น อย่างน้อยสี่ชนิด
1- ภูมิเฉยๆ = ไม่ใช่เรื่องของเรา ชั่งมัน
ดังนั้นตัวเลขสูงส่ง จากผลการตรวจ หามีความหมายไม่
Non-neutralizing antibody
2- ภูมิคุ้มกันดี= เรื่องของเรา ต้องป้องกันติด กันหนัก กันตาย รอด รอดด้วยกัน
Neutralizing antibody / cell system/memory
3- ภูมิเลวร้าย = ดูหน้าตาหรู เข้าพวก อวย กับวายร้าย สร้างความเสียหายอักเสบฉิบหาย
Antibody dependent enhancement (ADE)via Fc
4- ภูมิชั่วร้าย (ก)= สร้างภาพหรูหรา อวยกับวายร้าย ช่วยสนับสนุนวายร้ายให้กล้าแข็งขึ้น เพิ่มจำนวนขึ้น ชั่วกว่า แบบที่ 3
ADE enhanced infectivity
ภูมิชั่วร้าย (ข) = อวยกับวายร้าย รับจ๊อบ ถล่มพวกดี จนสถานการณ์หนัก ชั่วกว่าแบบที่ 3
Autoantibody induced suppression of interferon type I
ภูมิชั่วร้าย (ค) = เป้าหมายที่ตัวรับไวรัสเกิดการเบี่ยงเบน ทำให้เกิดการอักเสบตลอดเวลา และอาการหนักต่อเนื่อง (Anti idiotypic antibody)