จากกรณี น.ส.พัชราภา เกรัมย์ หรือน้องหญิง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปี 4 คนขับถูกรถเบนซ์ชนเสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านที่ ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับกลายเป็นปมปัญหาเนื่องจากบริษัทประกันภัยชื่อดังแห่งหนึ่ง บ่ายเบี่ยงที่จะจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนจำนวนเงิน 2.5 ล้านบาทให้กับครอบครัวของ น.ส.พัชราภา อีกทั้งยังเข้าแจ้งความโดยกล่าวหาคนขับรถเบนซ์ว่าให้การเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวน ส่งผลให้บริษัทได้รับความเสียหาย โดยหลังเกิดเรื่อง คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.มีมติให้เปรียบเทียบปรับบริษัทประกันภัยดังกล่าวในอัตราโทษสูงสุด คือ 1,858,400 บาท พร้อมสั่งเปรียบเทียบปรับรายวัน วันละ 20,200 บาทจนกว่าจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเสร็จสิ้น ปรากฏว่าหลัง คปภ.มีมติเปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสงสุด บริษัทประกันภัยดังกล่าว ยืนยันว่าจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามมติของ คปภ. โดยนัดมอบเงินให้กับครอบครัวของน้องหญิง ที่สำนักงาน คปภ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้
หลังทราบเรื่อง ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านพักของน้องหญิง พบชาวบ้านจำนวนมากมาให้กำลังใจ นายสมชาย เกรัมย์ อายุ 56 ปี และ นางสมเสร็จ เกรัมย์ อายุ 56 ปี พ่อและแม่ของน้องหญิง โดย นายสมชาย บอกว่า ครั้งนี้ไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านี้เหมือนต่อสู้กับสิ่งที่ใหญ่กว่า ตนจึงวิตกกังวลทั้งเรื่องค่าสนไหมทดแทน และกลัวว่าจะไม่ได้ทำบุญ 100 วันให้กับลูกสาว เพราะบริษัทประกันภัยไม่ยอมจ่ายค่าสินไหม แถมยังไปแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกับคนขับรถเบนซ์ ในข้อหาฉ้อฉล คนในครอบครัวจึงกังวลว่าอาจตกเป็นผู้ต้องหาไปด้วย ทั้งนี้หากได้เงินจากบริษัทประกันภัย ส่วนหนึ่งจะทำบุญ 100 วันให้กับลูกสาว และอาจสร้างสัญลักษณ์บางอย่างภายในหมู่บ้านให้กับลูกสาวด้วย แต่จะทำแบบเรียบง่าย
นอกจากนี้จะซื้อกล้องวงจรปิดบริจาคให้กับ สภ.สตึก 8 เครื่อง เพราะกล้องวงจรปิดมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้จากกรณีของน้องหญิง หากไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดของปั๊มน้ำมันในวันเกิดเหตุ ก็จะไม่มีหลักฐานไปหักล้างกับบริษัทประกันภัยที่อ้างว่าลูกสาวขี่รถออกจากซอยแล้วพุ่งชนรถเบนซ์ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทั้งอัยการจังหวัด คปภ. และผู้ที่คอยให้คำแนะนำ รวมถึงสื่อสารมวลชนที่พยายามช่วยเหลือหาความเป็นธรรมให้กับครอบครัวมาโดยตลอด โดยหลังจากนี้ครอบครัวคงจะอยู่กันอย่างสงบ ขาดแต่เพียงน้องหญิง ที่จากไปแบบไม่มีวันกลับ
ผู้สื่้อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย เข้าแจ้งความกล่าวหาคนขับรถเบนซ์ ว่ามีการฉ้อฉล โดยให้การเท็จกับพนักงานสอบสวน และเบิกพยานเท็จต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ขณะนี้บริษัทประกันภัยยังไม่ถอนแจ้งความคนขับรถเบนซ์ ในข้อหาดังกล่าวแต่อย่างใด
