คณะนักวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์ฮิโรชิ นิชิอุระ จากมหาวิทยาลัยเกียวโต รายงานผลการวิเคราะห์ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาของกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ในเรื่องการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในแอฟริกาใต้ โดยเป็นการตรวจสอบข้อมูลทางพันธุกรรมของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในแอฟริกาใต้ราว 200 ราย ที่มีรายงานตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งผลการวิเคราะห์พบว่า อัตราการแพร่เชื้อของสายพันธุ์โอมิครอน สูงกว่าตัวเลขของเชื้อสายพันธุ์เดลต้าถึง 4.2 เท่า
อย่างไรก็ดี คณะนักวิจัยยังไม่ทราบอัตราการแพร่ระบาดที่แน่ชัดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน แต่ประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ในแอฟริกาใต้อยู่ที่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ศาสตราจารย์นิชิอุระระบุว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน อาจเป็นภัยเสี่ยงสูง แม้ในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง ปัจจุบัน คณะนักวิจัยยังคงรอดูข้อมูลสำคัญอื่นๆ เช่น ความรุนแรงของสายพันธุ์โอมิครอน และประสิทธิภาพของวัคซีนต่อการป้องกันการติดเชื้อและเจ็บป่วย