วันนี้ ที่รัฐสภา นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ประธานภาค ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงกรณีการส่งผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ลงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ว่า ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ ขอยืนยันว่าทางพรรคพลังประชารัฐจะดำเนินการตามนโยบายภาคกทม. ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรค เบื้องต้นได้มีการเตรียมนโยบายและบุคคลที่จะลงพื้นที่ ช่วยในส่วน ส.ส. และเขตที่ยังไม่มีส.ส. อย่างไรก็ตามผู้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ทางพรรคยังไม่มีมติใดๆจากคณะทำงานภาค และมติจากกรรมการบริหาร เนื่องจากทางกรรมการบริหารจะต้องรอมติจากคณะกรรมการภาคเสนอขึ้นไป
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จะลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ในนามพรรคพลังประชารัฐนั้น ขอยืนยันว่ายังไม่มีการตัดสินใจหรือคำตอบที่ชัดเจน เพราะยังไม่มีการประชุมหารือใดๆทั้งสิ้น แต่ยอมรับว่าการลงพื้นที่ของส.ส.และคณะทำงานภาคกทม.ทั้ง 50 เขต เป็นชื่อที่พี่น้องประชาชนให้การสนใจ ได้รับกระแสตอบรับที่ดี แม้จะไม่ใช่นักการเมือง หรือคนที่เปิดชื่อตามโพลสำรวจต่างๆ ในเบื้องต้นได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการภาคด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับกระแสที่ออกมาเหมือนเป็นการโยนหินถามทางหรือไม่นั้น ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าใครโยน แต่ก็ยืนยันว่าไม่ใช่ส.ส.กทม.แน่นอน อย่างกรณีที่มีชื่อนายณรงค์ศักดิ์เผยแพร่ออกไป ก็ต้องให้เกียรติท่าน เพราะท่านยังรับราชการอยู่ และเป็นข้าราชการระดับสูง ดังนั้นจะไม่มีการนำชื่อของท่านมาเปิดเผยอย่างนี้แน่นอน แต่หากท่านเอ่ยปากว่าท่านสนใจ กระบวนการหลังจากนี้ถึงจะเริ่มต้นขึ้น
ส่วนกระแสข่าวที่นายณรงค์ศักดิ์เข้าไปพบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น กรณีนี้ตนไม่ยืนยัน ตอนนี้คณะทำงานภาคก็ไม่เคยได้พบกับท่านเช่นเดียวกับกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายณรงค์ศักดิ์ขอเวลาตัดสินใจ 2 สัปดาห์ เพื่อไปคุยกับครอบครัวก่อนนั้น ตนไม่ทราบและไม่ขอยืนยัน เพราะตนไม่เคยพูดคุยกับท่านมาก่อน ทั้งนี้พรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ได้มีกำหนดวันเปิดตัวผู้สมัครฯผู้ว่ากทม.ของพรรค แต่เดิมพรรควางกรอบระยะเวลาการเปิดตัวผู้สมัครกทม.ของพรรคพลังประชารัฐ ตอนแรกตั้งไว้ว่าจะเปิดตัวหลังเลือกตั้งอบต. ประมาณ 3 เดือน ซึ่งพรรคได้เตรียมนโยบายและเตรียมคนไว้พร้อมหมดแล้ว
นายจักรพันธ์ ยังกล่าวถึงสนามเลือกตั้งซ่อมส.ส.จังหวัดชุมพรและจังหวัดสงขลาว่า คงเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค เพราะนอกเหนือจากภาคของกทม. ดังนั้นอยากจะให้รอถามผู้ที่รับผิดชอบ ได้แถลงเองดีกว่าโดยเฉพาะภาคใต้
ด้าน ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สำหรับในส่วนของจังหวัดสงขลาและจังหวัดชุมพร ก็จะต้องดูการหารือและประชุมของ คณะกรรมการบริหารพรรคก่อน เพื่อดูว่าจะมีมติว่าจะส่งหรือไม่ส่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างก็จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน หากไม่ส่งก็คงจบไป แต่ถ้าหากส่งขั้นตอนถัดไปก็คือการเข้าสู่คณะกรรมการสรรหา ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์ อยากจะให้พรรคร่วมหลีกทางให้กันนั้น ก็คงจะต้องประชุมหารือกันอีกครั้ง เพราะในการเลือกตั้งถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะมีการส่งผู้สมัครในแต่ละพื้นที่