วันที่ 13 ธ.ค. เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ยังคงปักหลักอยู่ที่บริเวณด้านหน้าหน้าองค์การสหประชาชาติ และล่าสุด มีเครือข่ายจากภาคใต้ที่เดินทางมาสมทบ ร่วมให้กำลังใจในวันนี้ ได้แก่ เครือข่ายสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย, สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้, เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาสงขลา-สตูล, ภาคี save นาบอน ,P-move ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และ เครือข่ายอื่นๆ ซึ่งทุกเครือข่ายยืนยันว่า จะร่วมเดินทางไปทวงสัญญาจากรัฐบาล ที่ประตู 1 หน้าทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับ เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น
ด้าน นายสมบูรณ์ คำแหง ที่ปรึกษาเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กล่าวถึงความคืบหน้าของการชุมนุมเรียกร้องในครั้งนี้ ว่าคาดว่า พรุ่งนี้ การชุมนุมของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น น่าจะมีการยุติลง เนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมา นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ได้เชิญตนเข้าไปพบและได้มีการพูดคุยถึงปัญหาดังกล่าว การพบกับรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นทิศทางที่อย่างน้อย ๆ ก็ได้หารือกัน นับเป็นจุดเริ่มต้น แต่สุดท้ายต้องประเมินดูว่า รัฐมนตรี หรือรัฐบาล จะแก้ปัญหานี้อย่างไร ส่วนตัวหวังว่า อย่างน้อยๆ เรื่องปัญหาของจะนะ น่าจะถูกหยิบยก ขึ้นมาพูดใน ที่ประชุม ครม. ส่วนการชุมนุม ในวันนี้ ไม่กังวลว่า จะมีความรุนแรงจากมือที่สาม เพราะ ได้ทำความเข้าใจ กับ ทุกเครือข่ายที่จะมาร่วมสมทบแล้วว่า จะชุมนุมโดยสันติ เหมือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายสมบูรณ์ ยังกล่าวยืนยันด้วยว่า จะมุ่งหน้าเดินทางไปยังที่ประตู 1 รัฐบาล โดยรวมตัวตั้งขบวน 14.00 น และ 15.00 น.ออกเดินตามเส้นทาง เพื่อติดตามข้อเรียกร้อง ให้รัฐบาลอนุมัติหลักการและเหตุผลที่แนบเอาไว้ โดยขอให้รัฐบาลมีการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการ จะนะ หากไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้อง ก็จะมีการประกาศท่าทีต่อไป และฝากไปยังทุกกลุ่มทุกเครือข่ายที่เข้าร่วมกับจะนะว่าไม่ปฏิเสธแต่ขอให้ปฏิบัติตามกลุ่มของตนเองโดยการยึดความสงบเป็นแนวทางในการต่อสู้
ส่วนเส้นทางการจราจรตรงบริเวณด้านหน้าของทำเนียบเจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมาวางกั้น โดยไม่ให้รถสัญจรไปมาประชาชนที่มุ่งหน้ามาทางนี้จะต้องเลี้ยวขวา
ขณะที่มาตราการรักษาความปลอดภัย บริเวณโดยรอบ องค์การสหประชาชาติ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระจายกำลัง ดูแลความปลอดภัยของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และ ประชาชนทั่วไป อย่างเคร่งครัด มีการวางกำลังรักษาความปลอดภัย บริเวณ ด้านหน้าสะพานมัฆวาน และ บริเวณด้านหน้ายูเอ็น เพื่อจำกัดการเคลื่อนขบวนของกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น โดยจำกัดขอบเขต ให้เดินเท้าได้ไกลสุดแค่ บริเวณสะพานมัฆวาน ขณะที่ กลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น บางส่วนมีการสำรวจเส้นทางอื่น ที่จะสามารถเดินทางเท้าเข้าไปยังทำเนียบรัฐบาลได้ แต่ทุกเส้นทาง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรักษาความปลอดภัย