วันนี้ (13 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสิระ เจนจาคะ สส.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมทนาย ได้เดินทางมาขึ้นศาลเพื่อฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.1149/2563 ที่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสิระ เจนจาคะ สส.พรรคพลังประชารัฐ กับพวกในความผิดฐาน “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” มาตรา 329 กรณี เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2563 นายสิระ จำเลยได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ขยี้ข่าวทอร์ค กับยุคล วิเศษสังข์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ไบรท์ทีวี และเผยแพร่ทางยูทูปช่อง จาม.com ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องบ้านที่โจทก์เป็นเจ้าของว่ามีการปลูกรุกล้ำทางน้ำสาธารณะ กล่าวคือ จำเลยได้ตอบยืนยันข้อเท็จจริงต่อคำถามของพิธีกรที่ถามว่า “พอเขาร้องเรียน เขาบอกว่าบ้านหลังนี้มันยื่นออกมามากกว่าบ้านหลังอื่นอย่างนั้นหรือ” ซึ่งจำเลยตอบว่า “ใช่ แต่ไม่รู้ว่าหลังไหน เขาไม่ได้เอารูปถ่ายมาให้เราดู แต่ว่าพอนั่งเรือหรือไปปุ๊บเนี่ย เอ้าบ้านหลังนี้หรือ เราเคยมา” อันเป็นการกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อกฎหมาย ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังด้วยการโฆษณา ประกอบกับตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จำเลยได้นำเรื่องดังกล่าวมาใส่ความ ใส่ร้าย และให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนด้วย เหตุเกิดที่กทม.และทั่วราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตามกฎหมาย
โดยในวันนี้ นายสิระ จำเลยเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมบุคคลใกล้ชิด ขณะที่ฝ่ายโจทก์มีผู้รับมอบฉันทะทนายความมาศาลเช่นกัน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวกับพิธีกรในรายการนั้นว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2563 ได้พาสื่อมวลชนมาล่องเรือตรวจดูนั้น แม้ถ้อยคำไม่ได้ระบุว่ารุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ยังได้กล่าวตอบพิธีกรว่า เขาร้องเรียนว่าบ้านหลังนี้ยื่นมาในแม่น้ำ ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่ารุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม้จะเป็นการหมิ่นประมาท แต่ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็น หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร ที่ประชาชนและบุคคลทั่วไปให้ความสนใจ การที่นายสิระ ซึ่งเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎรได้รับการร้องเรียนจากประชาชน จึงพาสื่อมวลชนไปตรวจสอบนั้นเป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขั้นตอนหลังจากตรวจสอบแล้ว ก็ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ และส่งเรื่องให้กรมเจ้าท่าดำเนินการต่อไป เป็นประโยชน์และตอบข้อสงสัยว่ามีการรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ แม้จะมีถ้อยคำหมิ่นประมาท แต่ก็ไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่าบ้านรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาแต่อย่างใด นอกจากนี้การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวกลับเป็นผลดีต่อโจทก์เอง ที่จะได้ยืนยันข้อเท็จจริง และแสดงให้คนทั่วไปเห็นถึงความโปร่งใสในการทำงานของโจทก์
ดังนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมด้วยความเป็นธรรม ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังฟังคำพิพากษาเสร็จแล้ว นายสิระ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า คดีนี้ตนใช้สิทธิ ส.ส.เพื่อตรวจสอบพล.ต.ท. เสรีพิศุทธ์ ที่เป็น ส.ส. เช่นกัน อีกทั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต้องขอบคุณตนด้วยซ้ำที่ตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อแสดงความโปร่งใส
“เราเป็นส.ส.นะ ถ้าไม่ทำหน้าที่ ก็อย่าเป็นเลย และเป็นส.ส. เป็นกมธ.อีก ไม่สามารถตรวจสอบได้ ก็ให้ประชาชน สังคมคิดดูละกัน เราไปตรวจสอบคนอื่นได้ แต่คนอื่นมาตรวจสอบไม่ได้” นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ที่ศาลรับฟ้อง ก็ได้ไต่สวนมูลฟ้อง และรับเป็นคดีไว้ จนนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์กันในศาล วันนี้ศาลพิพากษายกฟ้องตนว่าไม่ผิด ที่ผ่านมาคดีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฟ้องตนอีกหลายคดี ศาลได้ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง 7-8 คดีแล้ว
เมื่อถามว่า ศาลตัดสินยกฟ้องแล้วรู้สึกดีใจหรือไม่ นายสิระกล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในการทำหน้าที่เป็นส.ส. ที่ประชาชนร้องเรียนมาและตรวจสอบ และนำเข้าสู่กรรมาธิการฯ เป็นขั้นตอนตามอำนาจหน้าที่ ขอบคุณที่ศาลใช้ดุลยพินิจ และให้ความเป็นธรรมตน จนยกฟ้องในวันนี้