วันนี้ (14 ธันวาคม 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ 7 รอบพระชนมพรรษา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งดำเนินการเตรียมความพร้อมปิดการใช้พื้นที่ และเตรียมเวียนคืนพื้นที่หลังจากที่ปริมาณของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เชียงใหม่ลดลง และเปลี่ยนการรักษาผู้ป่วยรายใหม่ตามศูนย์แยกกักตัวในชุมชน Community Isolation – CI ตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาด
ขณะที่ในวันนี้ บรรยากาศภายในโรงพยาบาลสนาม ทางเจ้าหน้าที่เริ่มทยอยเก็บอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อส่งคืนให้โรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังมีกำหนดปิดโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ในวันที่ 15 ธ.ค.64 หลังจากเปิดมายาวนานถึง 6 เดือนนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และรักษาผู้ป่วยโควิดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ไปแล้วหลายพันคน
ด้านแพทย์ พยาบาล และบุคคลากรทางการแพทย์ ชุดสุดท้ายยังคงทำงานอยู่ในโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลผู้ป่วย 10 คนสุดท้าย เป็นชาย 2 คน และหญิง 8 คน ที่ยังรักษาตัวอยู่ โดยวันนี้มีผู้ป่วยหญิง 1 รายที่หายป่วยแล้ว ทางทีมแพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้าน ส่วนผู้ป่วยอีก 9 คน แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้
หลังจากที่ผู้ป่วย 10 คนสุดท้ายได้รักษาหาย และส่งตัวกลับบ้าน โรงพยาบาลสนามเชียงใหม่จะทำการปิดตัวลง และจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาทำความสะอาดพ่นยาฆ่าเชื้อ ก่อนส่งมอบพื้นที่คืนให้หน่วยงานที่ดูแล เนื่องจากในช่วงต้นปี 2565 ที่จะถึงนี้ ทางศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ มีกำหนดการจัดงานแสดงสินค้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ
นางดารารัตน์ ศิริประเสริฐวิทย์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลสันกำแพง เจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเป็นวันสุดท้ายของการปิดโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ จะเหลือผู้ป่วยประวัติศาสตร์ชุดสุดท้าย จำนวน 10 คน ที่จะส่งกลับบ้าน จากนั้นโรงพยาบาลสนามจะปิดตัวลง แต่ทีมแพทย์และพยาบาลยังพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 โดยมีทุกอำเภอได้มีการเตรียมความพร้อมจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้ป่วย สีเขียว และสีเหลืองในพื้นที่
นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลหลัก ที่พร้อมรองรับผู้ป่วยสีเหลือง สีส้ม และสีแดง พร้อมฝากถึงพี่น้องประชาชนการ์ดอย่าตก สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกฮอล์ ส่วนการทำงานมายาวนานต่อเนื่องกว่า 6 เดือน ยอมรับว่าเหน็ดเหนื่อยมาก โดยเฉพาะช่วงหลังที่มีการปรับจากการดูแลผู้ป่วยสีเขียว มาดูแลผู้ป่วยสีเหลืองและสีส้ม จำนวน 300 เตียง แต่ก็ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน.