วันนี้ 14 ธันวาคม 2564 เรือโทยุทธนา โมกขาว รองผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) สายบริหารการเงินและกลยุทธ์องค์กร รักษาการแทน ผู้อำนวยการ กทท. ร่วมกับนายชุมพล สุรพิทยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดพาณิชย์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในโครงการจัดการพลังงานไฟฟ้าด้วยระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ซึ่งเป็นโครงการภายใต้รูปแบบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐต่อรัฐ โดยมีแผนพัฒนาเพื่อความทันสมัยควบคู่ไปกับความยั่งยืนในการยกระดับการบริการด้านพลังงานเพื่อช่วยให้การใช้พลังงานของ กทท. มีความมั่นคงสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงช่วยประหยัดงบประมาณรายจ่ายในระยะยาวได้ดีขึ้น
โครงการดังกล่าว เป็นการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป และอุปกรณ์ต่างๆ ของระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปรับปรุงเสริมโครงสร้างหลังคาที่จะต้องใช้ ก่อนติดตั้งเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) โดยโออาร์เป็นผู้ลงทุนและดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้น จะจำหน่ายไฟฟ้าให้ กทท. ในราคาพิเศษตามระยะเวลาในสัญญา 15 ปี เมื่อครบระยะเวลาในสัญญาแล้ว อุปกรณ์ทั้งหมด โออาร์จะส่งมอบให้กับ กทท. เป็นเจ้าของดูแลและเป็นผู้ใช้งานเองต่อไป
เรือโทยุทธนา กล่าวว่า ขอบคุณทางโออาร์ ที่นำเสนอโครงการดีๆ แบบนี้ให้กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพราะการท่าเรือฯ เป็นหน่วยงานที่ใช้พลังงานที่มาจากฟอสซิลมาก เพราะการใช้เครื่องมือต่างๆ จะใช้น้ำมันเป็นหลัก กระทั่งช่วงหลัง ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งปกติการใช้งบประมาณของการท่าเรือฯ ในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 7-8 ร้อยล้านบาทต่อปี รวมที่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง
“ โครงการนี้ ถือเป็นประโยชน์กับการท่าเรืออย่างมากเพราะจะทำให้เป้าหมายที่จะเป็น Green Port มีความชัดเจนขึ้น และทำให้ต้นทุนในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลดลง รวมถึงได้กลับมาในเรื่องของพลังงานสะอาด โดยโครงการนี้น่าจะเป็นโปรเจคแรกของหน่อยงานภาครัฐ และอาจจะเป็นโมเดลที่หน่วยงานอื่นๆ สามารถนำไปดำเนินการได้
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต มีความเป็นไปได้ ที่จะมีการขยายโครงการนี้ ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ที่จะสามารถผลิตไฟฟ้าที่มาจากพลังงานแสงอาอาทิตย์ที่ท่าเรือแหลมฉบัง แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการศึกษาของทางโออาร์ด้วย” เรือโท ยุทธนา กล่าว
ด้านนายชุมพล สุรพิทยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดพาณิชย์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องมีการติดตั้งและทดสอบระบบ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลา 1 ปี ซึ่งการทำโซลาร์รูฟ ในที่ที่มีความเหมาะสม จะทำให้เกิดพลังงานสะอาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการนี้ทำให้การท่าเรือฯ มีต้นทุนที่ถูกลง และมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน บริษัทมีกลุ่มลูกค้าทั้งจากหน่วยงานของรัฐ และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมของภาคเอกชนด้วย
สำหรับโครงการนี้ จะใช้ขนาดพื้นที่หลังคาเพื่อติดตั้งแผง Solar Rooftop ประมาณ 26,450 ตารางเมตร สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดประมาณ 3.149 MWp สำหรับใช้ภายใน ทกท. โดยจะใช้พื้นที่หลังคาของอาคารโรงพักสินค้า 3 4 5 และ 6 อาคารแผนกรถเครื่องมือทุ่นแรง อาคารโรงพักสินค้าเสริม 4 และอาคารคลังสินค้ารถยนต์ สามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ปีละกว่า 4,998,585 กิโลวัตต์ เทียบเท่ากับกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือน ถึง 2,776 ครัวเรือนต่อปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ปีละกว่า 2,910 ตัน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นปีละ 62,547 ต้นต่อปี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเป้าหมายด้าน Eco Efficiency ได้อีกทางหนึ่ง
โครงการโซลาร์รูฟท็อป จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ สร้างความมั่นคงทางพลังงานจากแหล่งพลังงานโซลาร์รูฟท็อปที่เพิ่มขึ้นมาอีกระบบหนึ่ง ช่วยให้การดำเนินกิจการมีความต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ กทท. ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ด้วยการใช้พลังงานทางเลือกที่มีความสะอาด ปราศจากมลพิษ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้มีความเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน
