น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคและทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยอออกมากล่าวหาว่ารัฐบาลบิดเบือนข้อมูลทุจริตจำนำข้าวว่า เป็นการพยายามให้ข้อมูลที่ผิดเพี้ยนเพื่อฟอกขาวข้าวเน่าของพรรคเพื่อไทย แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยสำนึกและรับผิดชอบความผิดของตนที่เคยทำไว้ต่อประเทศชาติ รวมถึงอนาคตของพี่น้องประชาชนชาวนาไทยที่ต้องสูญเสียไปจากการทุจริตครั้งนี้
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องหยุดใช้ความเชื่อผิดๆ และหันมาใช้ความจริงที่ปรากฎ คือคดีการทุจริตจำนำข้าวและผลเสียหายแก่ประเทศไทยกว่า 5 แสนล้านบาท ครอบครัวของผู้ที่ทำนาบนหลังชาวนาและจากการทุจริตนี้ได้ลอยตัวใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปอยู่ต่างประเทศ ผลักภาระให้ผู้เกี่ยวข้องคนอื่นติดคุก ผลักภาระให้ประชาชนชาวไทยและรัฐบาล ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องต้องมาร่วมชดใช้หนี้การโกงครั้งประวัติศาสตร์ที่มีผลงานการโกงนำนำข้าวกว่า 1,143 คดี ความพยายามบิดเบือนความจริง 4 ข้อของนายจักรพงษ์ เป็นการแก้ตัวที่เลื่อนลอย จึงขอชี้แจงความจริงเรื่องการโกงจำนำข้าว 4 ข้อดังนี้
1. โครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาลชุดนี้เป็นโครงการที่ “ไม่มีการทุจริต” มี “ความโปร่งใส” ทุกขั้นตอน เป็นระบบ พี่น้องชาวนากว่า 4.7 ล้านครัวเรือนได้ประโยชน์โดยตรงและเต็มจำนวนโดยรับเงินโอนตรงเข้าบัญชี และรัฐยังไม่มีภาระค่าใช้จ่ายเรื่องการเก็บสต๊อกข้าวเพราะเกษตรกรเป็นผู้เก็บเพื่อจำหน่ายเอง ซึ่งตรงกันข้ามกับโครงการจำนำข้าวที่มีการทุจริตทุกขั้นตอน
2. การที่อ้างว่าจะขายข้าวได้ใน 2557 แต่ถูกรัฐประหารเสียก่อน รวมถึงใส่ร้ายว่ารัฐบาล คสช.ใช้อำนาจสั่งให้มีการระบายข้าวโดยนำข้าวคุณภาพดีไปจัดเกรดเป็นข้าวคุณภาพต่ำและขายออกในราคาต่ำนั้น ขอให้นายจักรพงษ์ ได้ศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้เช่น ทีดีอาร์ไอเคยสรุปความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตั้งแต่ปี 2554-2557 พบว่า โครงการดังกล่าว ทำให้รัฐเสียหายทั้งสิ้นกว่า 9.6 แสนล้านบาท และมีเม็ดเงินคอร์รัปชันทั้งกระบวนการ 1.09 แสนล้านบาท ที่สำคัญกลุ่มชาวนาได้ออกมาร้องเรียนว่า ราคาข้าวตั้งไว้เกวียนละ 15,000 บาท จำนำได้จริงเพียง 10,500-11,000 บาท และมีขบวนการสวมสิทธิ์เป็นจำนวนมาก นำข้าวคุณภาพต่ำจากประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมจำนำด้วย และในปี 2555 ยังเป็นปีแรก ที่ประเทศไทยเสียแชมป์การส่งข้าวออกนอกประเทศให้กับอินเดีย
3. ทุกรัฐบาลเข้าใจและยอมรับที่จะเข้ามารับผิดชอบต่อหนี้คงค้างจากการดำเนินการโครงการเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่หนี้คงค้างของโครงการรับจำนำข้าวที่ต้องชดใช้กันอยู่นี้ ไม่ใช่เรื่องปกติที่ต้องมารับช่วงต่อ เพราะเป็นหนี้ที่เกิดจากโครงการที่มีการทุจริตมหาศาล ผลประโยชน์ตกไปอยู่ที่นักโกงเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยน่าจะมีความละอายใจมากกว่านี้เพราะเป็นเจ้าของโครงการดังกล่าว ไม่ควรพยายามปัดสวะให้พ้นตัว พูดดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น หรือควรจะขอบคุณรัฐบาลปัจจุบันที่มาแก้ไขปัญหาการโกงจำนำข้าวให้ด้วยซ้ำ
4. นายจักรพงษ์ ควรทราบข้อมูลว่า โครงการรับจำนำข้าว มีข้าวในสต็อกในช่วงปี 2557 รวม 17.963 ล้านตัน แยกเป็น ข้าวผ่านมาตรฐานเพียง 2.197 ล้านตัน ข้าวไม่ตรงตามมาตรฐานถึง 14.405 ล้านตัน และข้าวเสียอื่นๆ กว่า 1 ล้านตัน ซึ่งข้าวค้างสต็อกที่ไม่มีคุณภาพอันเกิดจากการทุจริตของรัฐบาลเพื่อไทย สร้างความยากในการระบายขายข้าวที่เป็นภาระของประเทศ ทั้งทำลายกลไกราคาในตลาด ทำลายราคาข้าว ทำลายชีวิตชาวนามาจนถึงทุกวันนี้ และที่สำคัญไม่ได้เกิดจากความรับผิดชอบของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์และพี่น้องชาวนาเลย แต่ทุกฝ่ายก็กำลังเร่งแก้ปัญหาที่เกิดจากนโยบายพรรคเพื่อไทยในอดีตอยู่
“ทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมา ไม่ได้หยิบยกเพื่อมาโจมตีพรรคเพื่อไทย แต่เป็นกล่าวตามความจริงเพราะมีภาระงบประมาณที่สำนักงบประมาณได้ตั้งงบชำระหนี้ให้ ธ.ก.ส. มาทุกๆ ปีเฉลี่ยปีละเกือบ 1 แสนล้าน การที่นายจักรพงษ์พยายามแสดงความรู้อ้างลอยๆ ว่าโครงการจำนำข้าวยุติไปกว่า 7 ปี แล้ว จึงฟังไม่ได้ แสดงถึงความไร้ความรับผิดชอบของพรรคเพื่อไทย แม้โครงการจะยุติไปแล้วแต่หนี้และความเสียหายยังมีอยู่มาตลอด ตลอด 7 ปี รัฐบาลยังต้องระบายขายข้าวเสื่อมคุณภาพจากการทุจริต ดังนั้นการขายข้าวเน่าขาดทุนจึงไม่ใช่ความบกพร่องของรัฐบาลนี้ แต่เป็นผลจากสต็อกเน่าที่ค้างต่อเนื่องมาต้องทยอยระบาย ไม่ใช่ลักไก่ขายจีทูจีเก๊ๆ หลอกประชาชน ทำสต๊อกลดลงทางบัญชีได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลพวงการบริหารผิดพลาดครั้งมโหฬาร ตั้งแต่น้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ที่มีมาตั้งแต่รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น” น.ส.ทิพานัน กล่าว