หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดตัว นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสด์ หรือ ดร.เอ้ อดีตอธิการ มจล. ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกกรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก.ครบทั้ง 50 คน ซึ่งในว่าที่ผู้สมัครส.ก. เราก็จะเห็นบิ๊กเนมอย่าง นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึง นอกจากนี้ ยังมีนายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ซึ่งเป็นบิดาของน.ส.โฟกัส จีระกุล ดาราสาวที่สนับสนุนแนวคิดกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองฝั่งตรงกันข้ามกับรัฐบาล มาลงสมัครด้วย
สำหรับโฟกัส เป็นนักแสดงที่มีแนวคิดสนับสนุนกลุ่มราษฎร แนวคิดก้าวหน้าซ้ายจัด ซัดรัฐบาล นายกรัฐมนตรี อย่างต่อเนื่องและเปิดเผยมาโดยตลอด แต่ที่น่าแปลกใจทำไม การปรากฏตัวของ พ่อ โฟกัส มาลงสมัคร ส.ก. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ เหล่าสาวก 3 นิ้ว ถึงเงียบฉี่ ผิดคาด ไม่มีแฟนคลับ 3 นิ้ว มาแห่แบน ขุดคุ้ย ลากประจาน เหมือนอย่างเช่น ลูกหนัง ศีตลา วงษ์กระจ่าง ลูกสาวของคุณตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง อดีตนักแสดงที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ล่วงลับ ซึ่ง กระแสแฮชแท็ก แบนลูกหนัง ศีตลา ซึ่งช่วงที่กำลังจะเดบิวต์สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป H1-KEY ของค่าย GLG (Grandline Group) ที่ประเทศเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ม.ค. 2565 โดยโยงเหตุการณ์ที่บิดาเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 2551 และกล่าวหาว่าครอบครัวสนับสนุนเผด็จการ บางคนยังเปรียบเทียบไปถึงแกนนำม็อบราษฎรอย่าง เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์, รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, เบญจา อะปัญ ฯลฯ ออกมาต่อสู้ทางการเมือง กลับถูกจองจำในคุกขึ้นมาเปรียบเทียบ
แต่ที่สุดแล้ว ค่าย GLG ต้นสังกัดของวง H1-KEY ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า ความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับ ศีตลา สมาชิกวง H1-KEY และบิดาผู้ล่วงลับ ตั้งแต่ที่มีการร้องเรียนเข้ามา ทางค่ายตรวจสอบแล้วได้ข้อสรุปว่าไม่สามารถลงโทษศีตลาได้ เนื่องจากการกระทำของพ่อผู้ล่วงลับ มากเกินกว่าที่เธอจะรับผิดชอบได้ ดังนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกวง H1-KEY ด้วยเหตุผลนี้ นอกจากนี้ ที่ศีตลาเลือกพ่อของเธอเป็นแบบอย่างก็ในฐานะหัวหน้าครอบครัว ศิลปิน และผู้กำกับ ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องทางการเมืองแต่อย่างใด ตอนนี้ศีตลาได้มองย้อนกลับไปในอดีตซึ่งเจ็บปวดไม่น้อย เหตุการณ์นี้ทำให้เข้าใจความเป็นจริงของประเทศไทยมากขึ้น จึงขอสนับสนุนความฝันของศีตลา เพื่อไม่ให้ความพยายามสูญเปล่า และสัญญาว่าจะตรวจสอบความรักความห่วงใยของแฟนๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
ซึ่งในครั้งนี้ได้เห็นถึงความ 2 มาตรฐาน ของกลุ่มคนที่เรียกตนเองว่า นักประชาธิปไตย อย่างสิ้นเชิง พ่อโฟกัส ลงส.ก. อยู่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคที่ กลุ่มม็อบ 3 นิ้ว เคยบุกไปสาดสี สร้างความเลวร้ายที่พรรคมาแล้ว มวลชน 3 นิ้ว มองเป็นพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด แต่พอเป็นเคสของ พ่อโฟกัส เรื่องนี้เงียบไม่มีกระแสแบน หรือต่อต้านแต่อย่างใด
ขณะที่ ลูกหนัง รุมกระหน่ำ ระดมแบน ทางโซเชียล ไม่ให้ต้นสังกัดที่เกาหลีใต้รับเป็นศิลปินในค่าย ประหนึ่งเอาให้ตายกันไปข้างนึง แล้วแบบนี้จะเรียกว่านักเรียกร้องประชาธิปไตยได้อย่างไร เพราะในเมื่อความเท่าเทียม เสมอภาค ก็ยังไม่มีเลย