เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 17 ธ.ค. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 18 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังให้สมาชิกสภาฯหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่แล้ว ทันทีที่ประชุมเข้าสู่ระเบียบวาระ นายศุภชัยได้ขอมติ เรื่องรายงานการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบที่มีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกรรมาธิการ(กมธ.) ซึ่งรายงานดังกล่าวคณะกมธ.ได้พิจารณาเสร็จแล้ว เนื่องจากมีสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จากนั้น 10.49 น. นายศุภชัยได้กดออดเรียกสมาชิกเข้ามาเสียบบัตรแสดงตน เพื่อตรวจสอบองค์ประชุม แต่เวลาผ่านไป 2 นาที ปรากฎว่าสมาชิกสภาฯทยอยเข้าห้องประชุมบางตา ทำให้ประธานที่ประชุมขอสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 30 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงาน ระหว่างรอสมาชิกสภาฯนั้น นายศุภชัยกดออดเรียกสมาชิกอยู่หลายครั้ง และขอให้รีบเข้าห้องประชุม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก จึงจำเป็นต้องขอมติจากที่ประชุมก่อนนำส่งให้รัฐบาล แต่นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นมากล่าวตำหนิส.ส.ว่า เวลาที่ไม่ได้เป็นส.ส.ก็อยากจะแย่งกันเป็น แต่พอมาเป็นส.ส.ก็ขี้เกียจไม่มาประชุม อ้างเหตุลาประชุม ตนเห็นว่าประธานฯอย่าอนุญาต ถ้าลาครบ 4 ครั้งก็ให้พ้นสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ไปเลย อยากเป็นส.ส.แต่ไม่มาประชุม ขอตำหนิส.ส.พวกนี้ ประชาชนอย่าไปเลือก เข้ามากินเงินเดือนแต่ไม่ยอมทำหน้าที่
ขณะที่นายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้ขอเวลาเพื่อให้สมาชิกสภาฯได้เข้าห้องประชุม ทำให้นายศุภชัย กล่าวขึ้นว่า “หากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ล่มอีก อายชาวบ้าน จากการเช็คชื่อประชุมมีทั้งหมด 260 คน หากส.ส.ที่ยู่ในห้องประชุมช่วยกดบัตรตรวจสอบองค์ประชุมช่วยๆกัน ครบแน่ๆ ทั้งนี้ส.ส.มาประชุมครบองค์ประชุม แต่บางครั้ง ส.ส.แสดงความจำนงไม่เช็คองค์ประชุมให้ ถือเป็นสิทธิของส.ส.”
จากนั้นนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “ฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุม ส่วนองค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของส.ส.รัฐบาล” ทำให้นายศุภชัย ตอบกลับว่า “ในข้อบังคับการประชุมไม่ระบุว่าองค์ประชุมเป็นของฝ่ายใด ดังนั้นถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของส.ส.ทุกคน” จากนั้น นายศุภชัยได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 30 นาที
ต่อมาเวลา 11.25 น. วันที่ 17 ธ.ค. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 18 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้กลับมาประชุมอีกครั้ง หลังจากสั่งพักการประชุม 30 นาที โดยประธานที่ประชุมพยายามกดออดเรียกให้สมาชิกเข้าห้องประชุม ขณะที่น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้เช็คองค์ประชุมแบบขานชื่อ โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยสนับสนุน พร้อมกล่าวว่า การรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของส.ส.ฝั่งรัฐบาล ทำให้น.ส.รังสิมา ลุกขึ้นกล่าวอีกครั้งว่า รู้สึกไม่สบายใจที่นายจุลพันธ์เห็นว่าองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของส.ส.รัฐบาลเท่านั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะความจริงการรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของส.ส.ทุกคน
ต่อมานายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้ว่า อยากให้น.ส.รังสิมานึกถึงตอนที่เป็นฝ่ายค้าน และพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายรัฐบาล ในเวลานั้นพรรคเพื่อไทยโดนฝ่ายค้านขอนับองค์ประชุมวันละ 5 ครั้ง เรื่องวอล์กเอ้าท์กลายเป็นเรื่องปกติ
จากนั้นเวลา 11.39 น. ประธานที่ประชุมได้ให้สมาชิกสภาฯกดบัตรแสดงตน จากนั้นเวลาผ่านไป 11 นาที นายศุภชัยแจ้งผลการนับองค์ประชุม ปรากฎว่ามีเพียงส.ส.กดบัตรแสดงตนจำนวน 235 คน จากสมาชิกทั้งหมด 476 คน ถือว่าไม่ถึงครึ่งหนึ่ง และองค์ประชุมไม่ครบ ทำให้นายศุภชัยสั่งปิดประชุมในเวลา 11.50 น.