วันที่ 18 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ “บ้านหมาใหญ่” ซึ่งเป็นฉายาของลูกชายคนโต หรือ ช่วงงานศพใช้ชื่อ “บ้านสวนเรือนไทย” หมู่ 10 ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจศพ นางเฮียง ศรีสนอง อายุ 90 ปี โดยในงานได้จัดตั้งเมรุลอย หลังใหญ่สวยงามไว้ในบริเวณบ้านเรือนไทยที่ปลูกสร้างอยู่ในสวนมะพร้าวเนื้อที่กว่า 1 ไร่ นอกจากนี้เจ้าภาพยังจัดให้มีมหรสพลิเกมาเปิดการแสดง 2 คืนให้ชมฟรีสร้างความคึกคักให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก เนื่องจากไม่เคยเห็นใครจัดงานศพให้กับบุคคลธรรมดาอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน
สำหรับเมรุลอยดังกล่าว ตั้งบริเวณลานกว้างหน้าบ้านซึ่งเป็นหมู่เรือนไทยหลายหลังปลูกสร้างติดกัน โดยเมรุลอยเป็นทรงจตุรมุข 5 ชั้น 9 ยอด ตกแต่งด้วยลวดลายและ เทพนม ความกว้างด้านละ 16 เมตร สูง 15 เมตร มีบันได 19 ขั้น ตั้งคร่อมต้นพะยอมขนาดใหญ่อายุนับร้อยปี บริเวณโดยรอบเมรุลอยประดับหลอดไฟและตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวอย่างงดงาม พื้นที่รอบเมรุลอยเจ้าภาพได้นำเรือสำปั้นบรรทุกมะพร้าวอ่อนมาวางไว้พร้อมผลไม้อื่นๆในสวน เช่นกล้วยน้ำว้า ละมุด มะละกอ เพื่อระลึกถึงผู้ตาย เนื่องจากในอดีตเป็นแม่ค้าพายเรือนำมะพร้าวอ่อนและน้ำตาลมะพร้าว รวมถึงผลไม้ตามฤดูกาลไปขายตลาดแม่กลองและตลาดนัดทางเรือในพื้นที่ รอบบริเวณงานตั้งแต่ทางเข้าและในจุดต่างๆได้จัดให้มีจุดวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ ล้างมือ หน้ากากอนามัย ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายสมชาย ศรีสนอง อายุ 56 ปี เจ้าภาพงานศพ กล่าวว่า นางเฮียง ศรีสนอง มารดา เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 90 ปี ด้วยโรคชรา ลูกๆได้เก็บศพไว้ 100 วัน ก่อนจัดพิธีสวดพระอภิธรรม ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม เป็นต้นมา และกำหนดพิธีฌาปนกิจศพในช่วง 6 โมงเย็นวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เป็นการเผาจริงบนเมรุลอยที่จัดตั้งขึ้น
สำหรับ นางเฮียงมีลูกทั้งหมด 9 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 3 คน เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก 2 คน ตนเป็นลูกชายคนที่ 3 แม่เลี้ยงลูกทุกคนด้วยความวิริยอุตสาหะจนเติบใหญ่ ได้ดีกันทุกคน ทั้งที่เป็นเพียงแม่ค้าขายผลไม้ พายเรือส่งลูกเรียนหนังสือ ต่อมาลูกๆได้แยกย้ายไปทำ ธุรกิจโรงน้ำแข็งชื่อ “วารีทิพย์” ที่จังหวัดสมุทรปราการ และทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนมีฐานะดีขึ้น และกลับมาช่วยกันสร้างบ้านเรือนไทยหลังนี้ให้พ่อแม่ได้อยู่อาศัย
จากนั้นเมื่อมารดาชีวิต ลูกๆได้ปรึกษากันจะจัดงานศพให้แม่อย่างสมเกียรติ จึงได้ไปว่าจ้างเมรุลอยของ ลุงแถม จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ราคา 2 แสนบาทเศษมาติดตั้ง หากรวมค่าประดับตกแต่งดอกไม้ต่างๆ แล้วประมาณ 3 แสนบาท
นายสมชาย บอกด้วยว่าการจัดงานครั้งนี้ไม่ได้เป็นการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่ถือว่าเป็นการตอบแทนพระคุณมารดาที่แม่เลี้ยงพวกเรามาเป็นครั้งสุดท้าย และเป็นความภาคภูมิใจของลูกทุกคน
นพพร บุญทนาวงศ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. สมุทรสงคราม