“ปัตตานี” พบผู้ติดเชื้อ “โอมิครอน” หลังเดินทางกลับจากแสวงบุญที่ซาอุฯ

ปัตตานี พบผู้ติดเชื้อ "โอมิครอน" หลังเดินทางกลับจากแสวงบุญที่ซาอุฯ

วันที่ 19 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีข่าวว่าจังหวัดปัตตานีพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแล้วนั้น นายแพทย์อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอน 1 คน ซึ่งเป็นคณะอุมเราะห์กลับมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้ลงเครื่องที่สนามบิน จ.ภูเก็ต และเข้า Phuket Sandbox พบผู้ติดเชื้อ 5 คน โดย 1 คนติดเชื้อโควิดสายพันธ์โอมิครอน ส่วนอีก 4 คนติดเชื้อโควิดสายพันธ์เดลต้า

โดยผู้ติดเชื้อทุกคนได้อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาที่อยู่จังหวัดภูเก็ต ส่วนคนอื่นๆ ได้ตรวจ RT-PCR ไม่พบเชื้อใดๆ รวมทั้งไม่มีอาการ แต่ก็ได้กักตัว 5 วัน และเดินทางกลับมาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ ทั้งมีมาตรการระดับจังหวัดอย่างเข้มงวด

สำหรับผู้ที่เดินทางไปอุมเราะห์รอบนี้มีทั้งหมด 137 คน ก่อนจะกลับมาได้มีการตรวจ RT-PCR ที่ซาอุฯแล้ว และกลับมา ตรวจอีกครั้งที่ภูเก็ต โดยก่อนกลับบ้านเมื่อวันศุกร์ได้มีการตรวจ ATK ก่อนเดินทางอีกด้วย และทั้งหมดที่เหลือไม่มีใครตรวจพบเชื้อใดๆ ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะทางเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ได้วางมาตรการในการรักษาและป้องกันอย่างเข้มงวดรัดกุม และขอให้ประชาชนมาร่วมกันฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากโอมิครอนได้ และรอผลการแถลงการณ์จากผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง

ทั้งนี้สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดปัตตานี ได้ออกประชาสัมพันธ์ผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิดฯ สายพันธ์โอมิครอน รักษาตัวที่จังหวัดปัตตานี ได้รับการประสานข้อมูลจากจังหวัดภูเก็ต ว่ามีคนไทยเดินทางกลับมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ลงที่เครื่องสนามบินภูเก็ต เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2564 ได้มีการกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบว่า 1 รายติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน ทราบผลเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 64 โดยผู้ติดเชื้อขอเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลโคกโพธิ์ ในกรณีนี้ ไม่ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธ์โอมิครอนในจังหวัดปัตตานี แต่เป็นการพบเชื้อจากการเดินทางเข้าประเทศ จากจุดคัดกรองด่านเข้าประเทศ

จึงขอให้คนปัตตานี อย่าตื่นตระหนกกับกระแสข่าวนี้ แต่อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการฯ อย่างเคร่งครัดเช่นเดิม เช่นการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ทุกครั้งที่พบปะผู้คน เว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอร์และการรับวัคซีนป้องกันโควิดฯ ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อ ลดอาการรุนแรงและลดโอกาสการเสียชีวิตจากโควิด-19 จึงขอเชิญชวนชาวปัตตานี ที่ยังไม่ตัดสินใจรับวัคซีนฯ ติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อขอรับวัคซีนฯ และขอให้ผู้ที่รับวัคซีนฯครบ 2 เข็มแล้ว ติดต่อขอรับการฉีดกระตุ้น (เข็มที่ 3) เพื่อการเพิ่มภูมิคุ้มกันฯร่างกาย ต่อไป เพื่อความปลอดภัยของเราทุกคน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น